วันที่ 24 สิงหาคม 2566 ศูนย์วิทยุศรีไผท สภ.เมืองสุรินทร์ได้รับแจ้งจากนางพร(แม่ย่า)ว่ามีหญิงอยู่ภายในห้องน้ำของปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งนานนับชั่วโมงไม่ยอมออกมาสักทีที่บริเวณถนนปัททมานนท์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจและหน่วยวีอาร์กูชีพสุรินทร์ รีบรุดเข้าตรวจสอบพร้อมกับให้การช่วยเหลือ















ที่เกิดเหตุเป็นห้องน้ำหญิงห้องกลางภายในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ได้เข้าไปเรียกไม่มีเสียงตอบจึงได้ให้พนักงานปั้มน้ำมันเข้ามาช่วยเปิดประตูห้องน้ำให้พร้อมกับนำตัวออกมาทราบชื่อต่อมาชื่อ น.ส.สุภาวดี สาแก้ว(ผู้ป่วยทางสมอง) หรือพิณ อายุ 21 ปี เป็นคนบ้านหัวเสือ หมู่ที่ 5 ต.หนองอียอ อ.สนม จ.สุรินทร์ โดยอยู่ในอาการลักษณะตาเขม่งและไม่ยอมพูดจากัยใคร ประกอบกับขัดขืนไม่ยอมไปไหน
ทีมข่าวได้สอบถามนางพร เป็นแม่ย่า (แม่สามี) ของน.ส.สุภาวดี สาแก้ว(ผู้ป่วยทางสมอง) หรือพิณ เล่าว่า ตนและนายแสน ยิ่งรุ่งเรือง(ลูกชายนางพร) อายุ 31 ปี ที่อยู่ 225 ม.9 ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พร้อมกับญาติ ๆ ได้เข้าแจ้งความบุคคลสูญหายเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2566 เวลา 10.30 น. ที่ สภ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เจ้าของคดี ร.ต.อ.เสนีย์ ฉิมงาม รอง สว.สอบสวน สภ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีข้อความบันทึกประจำวันว่านายวีระพันธุ์ ปิยไพร อายุ 39 ปี บ้านพักเลขที่ 116 หมู่ 7ตำบล/แขวง บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มาสถานีตำรวจเพื่อแจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2566 เวลา 10.30 น. ได้มี น.ส.สุภาวดี สาแก้ว อายุ 21 ปี ชื่อเล่น พิณ เป็นคนอำเภอสนม จ.สุรินทร์ ซึ่งคบหาเป็นแฟนกับนายแสน ยิ่งรุ่งเรือง อายุ 31 ปี ที่อยู่ 225 ม.9 ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้หายออกไปจากบ้านหนองซุง ม.9 ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พร้อมกับบุตรชาย อายุ 9 เดือน ซึ่งพบเห็นล่าสุดที่ร้านขายของชำหน้าห้องแถว บ้านหนองซุง ม.9 ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งมีอาการทางสมอง โดยวันที่หายใส่เสื้อสีเขียวแขนสั้น เดินเปล่าไม่สวมรองเท้า ผู้แจ้งเกรงว่าจะเกิดอันตราย
หลังจากแจ้งความแล้วทางนางพรและญาติ ๆ ก็ออกตามหากระทั่งทราบว่า น.ส.สุภาวดี สาแก้ว(ผู้ป่วยทางสมอง) หรือพิณ ได้พาลูกชายวัย 9เดือน หนีมาอยู่ที่บ้านแม่ตัวเองที่ อ.สนม จ.สุรินทร์ ซึ่งทางตนได้ติดต่อไปกับแม่ของ น.ส.สุภาวดี สาแก้ว หรือพิณ จะบอกว่าไม่เห็นไม่พบลูกสะใภ้เลย จนกระทั่งวันนี้ตนและสามีของ น.ส.สุภาวดี สาแก้ว หรือพิณ พร้อมกับญาติ ได้เดินทางมารับตัว น.ส.สุภาวดี สาแก้ว หรือพิณและหลานชาย โดยได้ไปรับที่วัดตนเห็น น.ส.สุภาวดี สาแก้ว หรือพิณ และหลานนั่งอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ภายในวัด และได้ออกเดินทางมาก็พูดคุยกันดี แต่ น.ส.สุภาวดี สาแก้ว หรือพิณ นั้นบอกปวดท้องขอเข้าห้องน้ำตลอดทาง พอมาถึงที่ปั้มน้ำมันดังกล่าวตนจึงให้ญาติจอดรถ เพื่อตนจะรีบลงไปซื้อยาให้ ส่วน น.ส.สุภาวดี สาแก้ว หรือพิณ ได้เดินเข้าห้องน้ำ ผ่านเวลามากว่า 1 ชั่วโมง ตนผิดสังเกตจึงเข้าไปเรียกไม่มีเสียงตอบ ตนตกใจจึงรับโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาช่วย นำออกมาได้ตนรีบนำพระเครื่องของญาติที่มาด้วยกันสวมคอทันที ซึ่งคิดว่าน่าจะถูกผีเข้าเพราะช่วงมาด้วยกันพูดคุยกันดี แต่พอมาถึงขาเข้าเมืองสุรินทร์กลับทำไมเกิดอาการแบบนี้ โดยมีอาการตาขวาง ขัดขืน ไม่พูดจา มือกำเกร็งตลอดเวลา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังกู้ชีพวีอาร์เพื่อมารับตัว น.ส. พิณไปโรงพยาบาล แต่ก็เป็นไปอย่างทุลักทุเล เพราะ น.ส. พิณขัดขืนไม่ยอมไป จึงต้องใช้กำลังคน7คน ช่วยกันนำขึ้นเปลและใช้สายรัดเพื่อไม่ให้น.ส. พิณดิ้นหลุดหนีไปได้ และตนคิดว่าจะพา น.ส.สุภาวดี สาแก้ว หรือพิณ ไปโรงพยาบาลก่อนแล้วค่อยพาไปหาหลวงพ่อที่วัดให้ช่วยรดน้ำมนต์หรือทำพิธีเรียกขวัญปัดเป่าไสยมนต์ดำให้ เพราะตนสังเกตุว่า น.ส.สุภาวดี สาแก้วหรือพิณ มีอาการตาแข็งจ้องเขม่งจะพาไปไหนก็ขัดขืนไม่ยอมไปพร้อมกับไม่ยอมพูดจากับใคร ซึ่งทำให้ตนสงสัยเป็นอย่างมากน่าจะถูกผีเข้าหรือใครทำของไม่ดีใส่มาก็เป็นได้ เพราะโดยปกติอยู่กันมา3ปี น.ส.พิณไม่เคยมีอาการแบบนี้เลย