ข่าวอัพเดทรายวัน

ชาวบ้านชี้เบาะแสตัดต้นพะยูงจุดที่ 4 อายุกว่า 50 ปี 9 ต้นราคาถูก ชี้มีเงื่อนงำทำเป็นขบวนการ

เริ่มโผล่ตัดต้นพะยูงจุดที่ 4 !!! ประชาชนตำบลหนองหิน อำเภอห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ตรวจสอบต้นไม้พะยูงโรงเรียนหนองโนวิทยาคม ซึ่งถูกขายให้กับนายหน้าจำนวน 9 ต้น พร้อมหลักฐานใบเสร็จรับเงิน 104,000 บาท และเอกสารขั้นตอนข้อตกลงซื้อขายไม้พะยูงระหว่าง ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองโนวิทยาคม ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาเขต 2 กาฬสินธุ์ และธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ คล้ายกับปัญหาที่โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี มีภาพถ่ายกลุ่มข้าราชการ กรรมการโรงเรียนเดินสำรวจต้นไม้พะยูงใหญ่ พบถูกป้องกันด้วยลวดหนามของชาวบ้านที่นำมาล้อมป้องกันไว้ ตะลึงต้นไม้พะยูงชุดนี้ชาวบ้านระบุเป็นไม้พะยูงพระราชทานเมื่อ 50 ปีก่อน ชี้มีเงื่อนงำทำเป็นขบวนการเรียกร้องให้ตรวจสอบ

กรณีไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายไปจากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ อย่างไร้ร่องรอย เมื่อช่วงคืนวันที่ 5 ส.ค.66 ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสว่ามีบุคคลของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง และปัญหาการตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ที่ให้นายหน้าเข้ามาตัดไม้พะยูงภายในโรงเรียนถึง 22 ต้น กับอีก 2 ตอ ราคา 153,000 บาท ซึ่งมีราคาต่ำกว่าราคาตลาด 28-56 เท่าตัว โดยเรื่องนี้ จังหวัดได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.- ส.ต.ง.-ป.ป.ท. เอาผิดทางวินัย แพ่ง อาญา ล่าสุด ป.ป.ช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ตั้งคณะไต่สวนจัดชุดใหญ่ ตรวจสำนวนตำรวจส่งความผิด 8 เจ้าหน้าที่รัฐ เอี่ยวขายไม้พะยูง ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

วันที่ 29 สิงหาคม 2566 ที่โรงเรียนหนองโนวิทยาคม ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณด้านหลังโรงเรียนหนองโนวิทยาคม หลังได้รับแจ้งจากภาคประชาชนตำบลหนองหิน อำเภอห้วยเม็ก ว่า มีการตัดต้นไม้พะยูงด้วยวิธีประมูลขายหาเงินเข้าหลวง จำนวน 9 ต้น ขายให้กับพ่อค้าในราคา 104,000 บาท โดยขายไปเมื่อช่วงกลางเดือน เมษายน 2566 ซึ่งมีพฤติกรรมการตัดไม้พะยูงประมูลขายคล้ายกับปัญหาที่เกิดขึ้นที่ โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พร้อมระบุว่าเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ ซึ่งต้นไม้พะยูงชุดนี้ ชาวบ้านระบุว่าเป็นต้นไม้พะยูงของบรรพบุรุษที่นำมาปลูกเอาไว้ เชื่อว่าเป็นต้นพะยูง “พระราชทาน” เพราะก่อนจะมีการตัดชาวบ้านในชุมชนพยามทักท้วงแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากเป็นการตัดที่อ้างว่าเป็นไปตามระเบียบทางราชการหาเงินเข้าแผ่นดิน

การลงพื้นที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้พบกับชาวบ้านที่รอแจ้งเหตุ โดยได้นำพาไปดูจุดที่ต้นไม้พะยูงเคยมีอยู่ ปรากฏว่าหายไปจากพื้นที่และถูกตัดไป 9 ต้น พร้อมขุดตอ 8 ตอ เหลือ 1 ตอเป็นหลักฐาน พร้อมกันนี้ยังได้นำภาพถ่ายต้นพะยูงที่มีอยู่เดิมมาเปรียบเทียน ประกอบหลักฐานเอกสารการตกลงซื้อขาย ที่มีลักษณะคล้ายกับโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ โดยมีภาพถ่ายสำคัญที่ชาวบ้านได้ร่วมกันถ่ายเก็บเอาไว้ ปรากฏภาพกลุ่มข้าราชการ ประกอบด้วย ตัวแทนทางโรงเรียนหนองโนวิทยาคม และคณะกรรมการสถานศึกษา และตัวแทนของธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ไปประเมินราคาและวัดไม้พะยูง ถึงขั้นเอาตลับเมตรวัดรอบต้นไม้พะยูงทั้ง 9 ต้น ที่ชาวบ้านร่วมกันป้องกันด้วยวิธีการมัดล้อมรอบต้นพะยูงไว้ด้วยลวดหนาม

แหล่งข่าวในพื้นที่ กล่าวด้วยความเสียดายไม้พะยูงเก่าแก่ที่มาถูกตัดด้วยฝีมือข้าราชการว่า หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2566 เกี่ยวกับการขโมยไม้พะยูงของกลางที่หน้าเสาธง สำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด ต่อมา ก็พบข่าวการประมูลไม้พะยูงขาย ที่โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี ซึ่งพบว่ามีพฤติการณ์ที่คล้ายกับที่โรงเรียนหนองโนวิทยาคมเป็นหมู่บ้านของตน และเกิดขึ้นก่อนที่โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี ที่ทำให้มั่นใจว่า “ภาครัฐไม่เคยคิดที่จะอนุญาตให้ตัดไม้พะยูงของโรงเรียนไปขาย” หรือหากตัดก็สามารถตัดได้เท่าที่จำเป็น หรือเป็นจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยสำหรับนักเรียน จึงเห็นว่าจุดที่เคยอยู่ของไม้พะยูงโรงเรียนหนองโนวิทยา ก็ไม่ได้เสี่ยวหรือเข้าเกณฑ์แต่อย่างใด อีกทั้งในด้านเหตุผลการประมูลขาย ก็อ้างว่าจะนำเงินเข้าแผ่นดิน แต่มีราคาที่ต่ำกว่าการซื้อขายจริงของราคากลางถึง 28-56 เท่า ชาวบ้านหนองโนที่หวงแหนไม้พะยูง จึงได้พากันแชร์หลักฐานการซื้อขายที่ได้มาจากโรงเรียนหนองโนเพื่อให้ ปปช.- ปปท.- สตง. และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการป้องกันรักษาป่าไม้เข้าตรวจสอบ

“ชาวบ้านหนองโน ทุกคนมีความรักและหวงแหนไม้พะยูงที่โรงเรียนหนองโน เพราะรุ่นพ่อ รุ่นแม่ ปลูกไว้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของแผ่นดิน พอเห็นว่าทางคณะกรรมการสถานศึกษาจะขออนุญาตตัดไม้พะยูงขาย ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ได้ทักท้วงเพื่อขอให้ยุติการกระทำเพราะต้องการเก็บรักษาเอาไว้ให้เยาวชนรุ่นหลังได้ดูและยังเป็นร่มไม้ให้กับนักเรียน แต่ก็ไม่เป็นผลอีกทั้งไม่มีการประชาคมหมู่บ้าน และเท่าที่ทราบ ทางคณะกรรมการสถานศึกษา มีการประชุมกันเอง ขณะเดียวกันยังพบว่ามีคณะกรรมการฯบางคน ถูกปลอมลายมือเห็นชอบให้มีการตัดไม้พะยูงอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นในการตัดไม้พะยูง ทั้งขั้นตอนการขออนุญาต การประเมินราคา ที่มาที่ไปของเงินขายไม้พะยูง จึงขอเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ เพื่อสร้างความกระจ่างให้กับชาวบ้านด้วย” แหล่งข่าวกล่าวฯ