นายประจบ ดีพรม รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม เขต 2 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา นายไพศาล วุทฒิลานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เขตตรวจราชการที่ 11 ได้นำคณะลงพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อตรวจราชการติดตามประเมินผลการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการด้านความปลอดภัยในสถานศึกษา ที่โรงเรียนบ้านห้วยพระ ตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน และโรงเรียนบ้านหนองจันทร์ ตำบลท่าค้อ อำเภอเมืองนครพนม โดยมีนายอดุลย์ ไพรสณฑ์ ผู้อำนวยการกลุ่มนิเทศฯสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครพนม นายทรงศักดิ์ กวานปรัชชา รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม เขต 1 นางสาวภัทรมาศ ภะวะศิริกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม เขต 1 นายอภิวัฒน์ บุญนิธิภัทร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยพระ นางนันธิดา อัลโทธ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองจันทร์ ตลอดจนศึกษานิเทศก์ เจ้าหน้าที่กลุ่มนโยบายและแผน คณะครูและนักเรียนร่วมให้การต้อนรับและนำเสนอรายงานผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยในสถานศึกษาในปัจจุบัน ที่ยังคงมีให้พบเห็นอยู่เป็นประจำ ทั้งภัยที่เกิดจากการใช้ความรุนแรงของมนุษย์ ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ ภัยที่เกิดจากการถูกละเมิดสิทธิ์ และภัยที่เกิดจากผลกระทบทางสุขภาวะทางกายและจิตใจ กระทรวงศึกษาธิการจึงมีนโยบาย Quick Win 7 วาระเร่งด่วน ข้อที่ 1 ความปลอดภัยของผู้เรียน ให้หน่วยงานในสังกัดนําไปปฏิบัติให้เกิดความปลอดภัยในสถานศึกษา พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับ 8 กระทรวง 2 หน่วยงาน เพื่อสร้างความมั่นใจ และความเชื่อมั่นให้แก่นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้ปกครองและประชาชนทั่วไป ในการที่จะได้เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ และเกิดความปลอดภัยอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 มีการขับเคลื่อน แผนงานตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่เน้นการจัดการศึกษาที่มีความปลอดภัย มีการยกระดับคุณภาพการศึกษา สร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมทางการศึกษาทุกช่วงวัย ที่ให้นักเรียนทุกคนได้มีทักษะความสามารถในการแข่งขัน ทั้งยังส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาและวิชาชีพครู รวมทั้งการพัฒนาระบบราชการและการบริหารในแบบยุคดิจิทัล ประกอบกับนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้มีแนวนโยบาย 15 ข้อ ที่จะขับเคลื่อนยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพการศึกษาให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น เพื่อสร้างเยาวชนที่พร้อมเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติต่อไปในอนาคต จึงกลายเป็นพลังเครือข่ายความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตามขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่พบเห็นในสถานศึกษาทุกแห่งในจังหวัดนครพนม รวมถึง 2 โรงเรียนที่ได้รับการประเมินในครั้งนี้ด้วย จึงเชื่อมั่นได้ว่านักเรียนทุกคนมีความปลอดภัยในสถานศึกษาอย่างแน่นอน
