วันที่ 26 พฤษภาคม 2568 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม จัดกิจกรรม “SHARE & LEARN การพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพของนักศึกษาพยาบาล” เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาพัฒนาทักษะด้านวิชาการ การคิดวิเคราะห์ และการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการพยาบาล อันเป็นการบูรณาการการเรียนรู้ในรายวิชาวิจัยและนวัตกรรมทางการพยาบาล ของนักศึกษาชั้นปีที่ 3 รุ่นที่ 30 โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม เป็นประธานเปิดกิจกรรม มี ดร.สุปราณี สิทธิกานต์ คณบดีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม กล่าวรายงาน ณ ห้องประชุมพลตำรวจเอกสนอง วัฒนวรางกูร อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม (เขตพื้นที่กลางเมือง)
กิจกรรมครั้งนี้ มีการจัดแสดงผลงานนวัตกรรมจำนวน ทั้งสิ้น 15 ผลงาน โดยมุ่งเน้นให้นักศึกษาได้ฝึกฝนกระบวนการวิจัย การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และการทำงานร่วมกันเป็นทีม พร้อมทั้งพัฒนาสมรรถนะสำคัญในศตวรรษที่ 21 เช่น ความคิดสร้างสรรค์ การเรียนรู้ตลอดชีวิต และการดูแลสุขภาพอย่างรอบด้าน ทั้งต่อตนเอง ผู้รับบริการ และชุมชน
กิจกรรม “SHARE & LEARN” ยังเป็นเวทีให้นักศึกษาได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ รับข้อเสนอแนะจากคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อพัฒนาต่อยอดผลงานให้พร้อมสู่เวทีการแข่งขันในระดับสูงต่อไป ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม กล่าวว่า เวทีนี้เป็นมากกว่าการนำเสนอผลงาน เพราะเป็นโอกาสในการฝึกฝนความคิดสร้างสรรค์และการคิดเชิงนวัตกรรม
“การเป็นพยาบาลในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามหน้าที่ แต่ต้องเป็นผู้แก้ปัญหา เป็นนักสร้างสรรค์ที่สามารถยกระดับคุณภาพการดูแลสุขภาพของประชาชนได้อย่างแท้จริง ผลงานที่เราได้เห็นในวันนี้คือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการต่อยอดไปสู่เวทีระดับชาติและนานาชาติ ซึ่งจะเป็นความภาคภูมิใจของสถาบันและประเทศด้วย”
นอกจากนี้ ยังกล่าวเน้นว่า บัณฑิตพยาบาลจากมหาวิทยาลัยนครพนม ต้องเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในระบบสุขภาพ สามารถบูรณาการองค์ความรู้ด้านการพยาบาล เทคโนโลยี และการวิจัย เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคม และสามารถขยายผลในวงกว้างได้อย่างแท้จริง
กิจกรรมเวที “SHARE & LEARN” ในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม ใช้ในการเตรียมความพร้อมนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ พร้อมรับมือกับความท้าทายในระบบสุขภาพยุคใหม่
