นายอำเภอบ้านกรวด พร้อมกิ่งกาชาด อปท.กำนันผู้ใหญ่บ้านใน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของหลุมหลบภัยทั้งในหมู่บ้าน และโรงเรียนที่ติดแนวชายแดน ขณะครูให้ นร.ซักซ้อมวิ่งเข้าหลุมหลบภัย เพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุปะทะ เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ยังตรึงเครียด ส่วนจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูมี ปชช.ข้ามไปมาซื้อสินค้าเงียบเหงา
(7 มิ.ย.68) นายเอกวัฒน์ พวงประโคน นายอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนางศศิธร พวงประโคน นายกกิ่งกาชาดอำเภอบ้านกรวด เจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารโรงเรียน ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความพร้อมของหลุมหลบภัยทั้งในหมู่บ้าน และโรงเรียน ที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หากหลุมหลบภัยในหมู่บ้าน หรือโรงเรียนไหน มีสภาพชำรุดทรุดโทรมก็ให้ปรับปรุงซ่อมแซม ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้ ขณะที่โรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัย ได้นำนักเรียนซักซ้อมวิ่งเข้าหลุมหลบภัยที่มีอยู่ภายในโรงเรียน พร้อมแนะนำวิธีการหลบภัยอย่างปลอดภัย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม หากเกิดเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ตามแนวชายแดนยังตรึงเครียด จากผลพวงเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
นายอำเภอบ้านกรวด กล่าวว่า ภายหลังได้รับหนังสือสั่งการจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เรื่องการเตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่แนวชายแดน นอกจากทางอำเภอจะมีการประชุมวางแผนเรืองการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว ก็ได้ร่วมกับหลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบหลุมหลบภัยที่มีอยู่ในหมู่บ้าน และโรงเรียนตามแนวชายแดน ว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้หรือไม่ หากชำรุดทรุดโทรมก็ให้ทำการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งในพื้นที่อำเภอบ้านกรวดมีโรงเรียนทั้งหมด 50 แห่ง โรงเรียนที่ติดชายแดน 26 แห่ง แต่ละโรงเรียนก็จะมีหลุมหลบภัย 1 – 2 แห่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับบรรยากาศที่จุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ภายหลังเหตุปะทะที่ช่องบก ก็ค่อนข้างเงียบเหงามีประชาชนทั้งสองฝั่งข้ามไปมาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันบางตา อาจจะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์
