มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ลงพื้นที่สร้างความรู้งานพัฒนาแหล่งน้ำตามแนวพระราชดำริ เปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ตามโครงการฝ่าวิกฤติด้วยเศรษฐกิจและสังคมฐานราก ให้พัฒนาก้าวไปตามแนวพระราชดำริ
ที่ห้องประชุมโรงแรมชาร์ลอง-บูทรีค อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รองผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมเสริมสร้างความรู้งานพัฒนาแหล่งน้ำตามแนวพระราชดำริ การกระจายน้ำเข้าสู่แปลงเกษตรโดยใช้พลังงานทดแทน การใช้น้ำอย่างประหยัด รวมทั้งการเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำให้แก่ทีมผู้ปฏิบัติงาน ในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ จัดโดยมูลนิธิปิดทองหลังพระ โดยสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ
ทั้งนี้ มีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ที่ปรึกษาสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ นายปิยปัญญา ภู่ขวัญเมือง ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมชลประทาน นายภัทรพล ณ หนองคาย อนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา นายสุภัทรดิศ ราชธา ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ตลอดจนวิทยากรจากสำนักงานชลประทานที่ 6 ขอนแก่น เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ โดยมีคณิต คงช่วย หัวหน้าสำนักงาน จ.กาฬสินธุ์ นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการฯ ปลัดอำเภอที่รับผิดชอบโครงการฯ พนักงานโครงการฯและเจ้าหน้าที่ช่างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่รับผิดชอบโครงการรวม 73 คน จาก 15 อำเภอเข้าร่วมในการประชุม
นายสนั่น พงษ์อักษร รองผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ได้จัดทำโครงการฝ่าวิกฤตด้วยเศรษฐกิจและสังคมฐานราก ให้พัฒนาก้าวไปตามแนวพระราชดำริ ในพื้นที่ 9 จังหวัด ที่เป็นพื้นที่ต้นแบบ ประกอบด้วย จ.กาฬสินธุ์ อุดรธานี ขอนแก่น น่าน อุทัยธานี เพชรบุรี ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส นั้น ในวันนี้ จึงได้มีการจัดประชุมเพื่อเสริมสร้างความรู้งานพัฒนาแหล่งน้ำตามแนวพระราชดำริ การกระจายน้ำเข้าสู่แปลงเกษตรโดยใช้พลังงานทดแทน การใช้น้ำอย่างประหยัด รวมทั้งการเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำให้แก่ทีมผู้ปฏิบัติงาน ในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์
สำหรับ โครงการฝ่าวิกฤติด้วยเศรษฐกิจและสังคมฐานรากฯ เป็นโครงการที่ใช้แนวทางพระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา โดยการระเบิดจากข้างใน เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายสามารถแก้ไขปัญหาได้ตนเอง และได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องของระบบการกระจายน้ำ การต่อยอดกิจกรรมด้านการเกษตร อีกทั้งผู้ที่ว่างงานและผู้ที่กลับสู่ภูมิลำเนา ได้มีงานทำ เรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ และแนวพระราชดำริอื่น ๆ ควบคู่กันไป โดยคาดหวังให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม หลังจากปิดการประชุมเสริมสร้างความรู้งานพัฒนาแหล่งน้ำตามแนวพระราชดำริ การกระจายน้ำเข้าสู่แปลงเกษตรโดยใช้พลังงานทดแทน การใช้น้ำอย่างประหยัด รวมทั้งการเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำให้แก่ทีมผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ ผู้ร่วมประชุมได้ลงพื้นที่ติดตามความสำเร็จของโครงการพื้นที่ ต.หนองสอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อนำไปเสนอจังหวัดอื่นอีกด้วย