ผลกระทบราคารับซื้อข้าวเปลือกนาปีตกต่ำ พ่อค้าคนกลางรับซื้อเพียงกิโลกรัมละ 5-7 บาท ทำให้ชาวนาประสบปัญหาขายข้าวขาดทุน ต่างนำเมล็ดข้าวเปลือกที่จ้างรถเกี่ยวข้าวเสร็จ นำมาตากตามถนนหลวงเพื่อชะลอการขาย ทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่อการถูกรถเฉี่ยวชน ขณะที่นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ขอความร่วมมือสถานที่ราชการ วัด โรงเรียน อนุญาตให้ชาวนานำข้าวเปลือกเข้าไปตาก เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติตามบรรยากาศการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ของชาวนาใน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวและหลายรายนำไปขายให้กับแหล่งรับซื้อ โดยพบว่าราคารับซื้อข้าวเปลือกยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยพ่อค้าคนกลางรับซื้อข้าวเปลือกสด ทั้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้าเฉลี่ยเพียง ก.ก.ละ 5-7 บาท และข้าวเปลือกแห้ง ก.ก.ละประมาณ 7-9 บาทเท่านั้น ทำให้ชาวนาประสบปัญหาขายข้าวขาดทุน ทั้งนี้ เพื่อที่จะขายข้าวได้ราคาสูงขึ้น ชาวนาหลายรายจึงนำเมล็ดข้าวเปลือกมาตากผึ่งแดดให้แห้ง เป็นการชะลอการขายในช่วงที่ข้าวเปลือกกำลังออกสู่ตลาด ซึ่งจะเป็นช่องทางให้พ่อค้าคนกลางถือโอกาสกดราคา
นางคำปุ่น ภูซ้ายสี อายุ 49 ปี ชาวนาบ้านนาสมบูรณ์ ม.11 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากจ้างรถเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว ตนและเพื่อนชาวนาหลายราย ได้นำเมล็ดข้าวเปลือกมาตากผึ่งแดดที่ริมถนนหลวงสายบ้านฮองฮี-เขื่อนลำปาว เพื่อที่จะให้เมล็ดข้าวแห้ง เป็นการชะลอในช่วงราคาข้าวตกต่ำ รอให้ราคาสูงกว่านี้ก่อนที่จะแบ่งขายและเก็บไว้สีกินในครัวเรือน หากจะนำไปตากตามที่นาก็ไม่เหมาะ เพราะพื้นดินยังเปียกแฉะ หรือจะนำไปตากที่หน้าบ้านหรือตามถนนในหมู่บ้าน พื้นที่ก็ไม่เพียงพอ เพราะคับแคบ และปลูกผักสวนครัว ดังนั้น จึงได้นำมาตากที่ริมถนนหลวง ซึ่งก็ได้ติดตั้งสัญญาณจราจร ทั้งนำกรวยมาวางและติดตั้งไฟกะพริบ ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสังเกตได้ง่าย ขณะที่ในเวลากลางคืนก็รวบรวมข้าวเปลือกออกมากองที่ไหล่ทาง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
ด้านนายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากสภาวการณ์ราคารับซื้อข้าวเปลือกที่ตกต่ำ พบว่าชาวนาต่างนำข้าวเปลือกออกมาตากผึ่งแดด ตามถนนหลวงและถนนภายในชุมชนเป็นจำนวนมาก ทำให้เสี่ยงต่อการประสบอุบัติเหตุ หรือได้รับอันตรายจากการถูกรถเฉี่ยวชน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุและอุบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้น จึงได้ออกประกาศขอความร่วมมือจากสถานที่ราชการต่างๆ เช่น เทศบาลตำบล อบต. วัด โรงเรียน ที่มีบริเวณพื้นที่ว่างเปล่า อนุญาตให้ชาวนานำข้าวเปลือกเข้าไปตากได้ ดังนั้น จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวน ชาวนาที่อยู่ใกล้สถานที่ราชการดังกล่าว นำข้าวเปลือกไปตากเพื่อความปลอดภัย และยังเป็นการชะลอการขาย รอจังหวะให้ราคาข้าวสูงขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ทั้งในเขตพื้นที่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ และภายใน จ.กาฬสินธุ์ ยังไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ จากการตากข้าวบนถนนหลวงแต่อย่างใด