พบศพพระธุดงค์วัย 58 ปี ชาวตำบลศรีสมเด็จ อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด ธุดงค์มาจำวัดที่วัดศรีสว่างอารมณ์บ้านโปร่งแค ตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ มรณภาพคากุฏิท้ายวัด เบื้องต้นคาดอาพาธด้วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว ประกอบกับประสบภัยหนาวฉับพลัน ญาติระบุอุปสมบทและธุดงค์มา 8 พรรษา อาพาธมา 2 ปี ก่อนที่จะมามรณภาพ ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นฉับพลัน และไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 21 ธันวาคม 2563 ร.ต.อ.อภิสิทธิ พลเตชะ ร้อยเวร สภ.นากุง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุ พระธุดงค์มรณภาพบนกุฏิ ภายในวัดศรีสว่างวงศ์ บ้านโปร่งแค หมู่ 8 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ จึงประสานนายชยพล วัชระอุดมกุล นายกสมาคมกู้ภัยสามัคคีกาฬสินธุ์ และแพทย์เวรโรงพยาบาลยางตลาด ออกตรวจที่เกิดเหตุและชันสูตรศพ
โดยที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นกุฏิไม้ยกพื้นสูง ตั้งบริเวณท้ายวัด พบผู้นำชุมชน พระภิกษุและชาวบ้านจำนวนมาก กำลังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการตรวจสอบพบร่างพระภิกษุมรณภาพ ในสภาพนอนหงาย สวมหมวกไหมพรมสีเหลือง ห่มจีวรเนื้อบาง สภาพศพไม่พบบาดแผล และไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ทราบชื่อคือพระบุญสาร ธมฺมธโร และภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์และตรวสอบหลักฐานประจำตัว เจ้าหน้าที่สันนิษฐานสาเหตุมรณภาพเนื่องจากโรคประจำตัว และมรณภาพประมาณ 2 ชั่วโมง
พระวิชัย โชติธมฺโม พระลูกวัดศรีสว่างอารมณ์ กล่าวว่า พระรูปที่มรณภาพดังกล่าว ชื่อพระบุญสาร ธมฺมธโร อายุ 58 ปี อยู่เลขที่ 76 หมู่ 13 ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นพระธุดงค์มาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ โดยธุดงค์มากับพระอาจารย์วุฒิชัย อคฺธรรมฺโม และแม่ชียุพิน โรจน์วิริยกุล โดยก่อนมรณภาพทราบว่าพระธุดงค์และแม่ชีรวม 3 รูป ธุดงค์มาจากวัดถ้ำมะนาว อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร โดยพระบุญสารได้นิมิตว่ามีต้นไม้วิเศษ อยู่ที่วัดศรีสว่างอารมณ์ จึงได้เดินธุดงค์รอนแรมมาพำนักที่นี่ เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ผ่านมา
พระวิชัย กล่าวอีกว่า จากการสนทนา ทราบว่าพระบุญสารมีโรคประจำตัวคือโรคลิ้นหัวใจรั่ว เคยไปตรวจพบและหมอให้ยามารับประทานและแนะนำให้ไปทำการรักษา แต่ยังไม่มีโอกาสไปรักษาตามที่หมอแนะนำ เมื่อวานนี้เห็นบ่นว่าเจ็บจุกบริเวณทรวงอกและหน้าท้อง จึงพักผ่อนทั้งวัน พอพระเณรในวัดและญาติโยมทราบข่าวว่าไม่สบาย ก็นิมนต์ให้พักผ่อนและชวนไปหาหมอ พระบุญสารก็ไม่ยอมไป ซึ่งเมื่อเช้านี้ก็ไม่ได้ออกไปบิณฑบาต บอกว่าอาการไม่ค่อยดี ก่อนที่จะฉันภัตตาหารเช้าร่วมกัน ซึ่งก็เห็นฉันได้นิดหน่อย ก่อนที่จะมีอาการกระวนกระวาย และถอดจีวรออก ทั้งๆที่อากาศเมื่อเช้านี้หนาวฉับพลัน
จากนั้น เวลาประมาณ 11.00 น. ขณะที่อาตมากำลังเก็บกวาดใบไม้อยู่หน้ากุฏิ ซึ่งอยู่ใกล้กัน ก็ได้ยินเสียงพระบุญสารตะโกนขอความช่วยเหลือ และบอกว่าหายใจไม่สะดวก จึงได้รีบวิ่งมาดูอาการ ก็เห็นพระบุญสารเอาหน้าท้องและท้องน้อยกดกับราวไม้บนกุฏิ เหมือนจะข่มอาการเจ็บปวดภายใน ตนพยายามจะเข้าช่วยเหลือและโทรศัพท์เรียกเจ้าอาวาสและพระเณรมาช่วยก็ไม่ทันการแล้ว เนื่องจากพระบุญสารได้ล้มตัวลงนอนและมรณภาพไปอย่างกะทันหัน จะปฐมพยาบาลอย่างไรก็ไม้รู้สึกตัว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาชันสูตรศพดังกล่าว
ด้านนางสะอาด มูลสูตร อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 76 หมู่ 13 ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด อดีตภรรยาพระบุญสาร กล่าวว่า พระบุญสารได้ออกบวชเพื่อแสวงบุญประมาณ 8 พรรษา ขณะเป็นพระธุดงค์ก็ได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับญาติเป็นระยะ ก่อนที่จะทราบข่าวว่าอาพาธด้วยโรคลิ้นหัวใจรั่วมาประมาณ 2 ปี ทั้งนี้ เท่าที่ทราบ พระบุญสารไม่ค่อยจะไปตรวจสุขภาพ จึงกินยารักษาอาการไม่ต่อเนื่อง พอประสบกับอากาศหนาว ขณะที่ร่างกายอ่อนแอและมีโรคประจำตัว จึงเป็นสาเหตุให้มรณภาพดังกล่าว ซึ่งตนและญาติไม่ติดใจสาเหตุการมรณภาพ
ขณะที่ ร.ต.อ.อภิสิทธิ พลเตชะ ร้อยเวร สภ.นากุง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต สันนิษฐานเกิดจากโรคประจำตัวคือโรคลิ้นหัวใจรั่ว ประกอบกับสภาพอากาศที่หนาวจัด ทำให้อาการกำเริบและมรณภาพดังกล่าว โดยมรณภาพประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้มอบสรีระให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิดใน อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ดต่อไป ทั้งนี้ ได้รับความอนุเคราะห์โลงศพเทพพนมจากสมาคมกู้ภัยสามัคคีกาฬสินธุ์ เพื่อบรรจุสรีระ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนสรีระโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ