บรรยากาศการจับกุ้งก้ามกรามจำหน่ายในช่วงปีใหม่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์เริ่มขึ้นแล้ว โดยเกษตรกรมีการเปิดตัวกุ้งอัพเกรดพร้อมเสิร์ฟต้อนรับเทศกาลปีใหม่ จากปกติราคาที่ปากบ่อ 250 บาท เป็น 300 บาท ส่งตลาด ก.ก.ละ 700 บาท ผู้ประกอบการเผยคาดขนส่งกุ้งกาฬสินธุ์ออกสู่ตลาดในเทศกาลปีใหม่วันละ 6 ตัน เงินสะพัดกว่าวันละ 3 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2562 จากการติดตามบรรยากาศการจับกุ้งก้ามกรามจำหน่าย ของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในพื้นที่ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พบว่าเริ่มคึกคักเป็นพิเศษกว่าช่วงปกติ เนื่องจากใกล้เข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ โดยมีรถขนส่งกุ้งของพ่อค้าคนกลางทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ เข้ามารับซื้อกุ้งถึงปากบ่อวันละหลายเที่ยว เที่ยวละ 150-200 ก.ก.หรือวันละไม่น้อยกว่า 30 เที่ยว เงินสะพัดกว่าวันละ 3 ล้านบาท
นายสยุมภู ไร่ไสว อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 291 บ้านตูม หมู่ 19 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นทั้งเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งและพ่อค้าคนกลางจำหน่ายกุ้งกล่าวว่า กุ้งก้ามกรามเป็นสัตว์เศรษฐกิจอันดับหนึ่งของ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งทำการเลี้ยงอย่างเป็นล่ำเป็นสันมาประมาณ 30 ปี และได้รับการการสนับสนุนจากทางจังหวัด ธ.ก.ส. ชลประทานเขื่อนลำปาวและประมง ทำให้มีการพัฒนาพันธุ์กุ้ง การบริหารจัดการในบ่อกุ้ง และการตลาด มีความมั่นคง สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดี โดยจะขายดีมากในช่วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์
นายสยุมภูกล่าวอีกว่า กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์ เลี้ยงกันมากในพื้นที่ ต.นาเชือก ต.บัวบาน ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ โดยอาศัยน้ำจากชลประทานเขื่อนลำปาว ได้รับความนิยมจากนักบริโภคทั่วภาคอีสาน เนื่องจากผลผลิตกุ้งก้ามกรามของที่นี่ ตัวโต เนื้อนุ่ม เหนียว ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น ย่าง ต้มยำ พล่า ผัด ข้าวต้มกุ้ง โดยปัจจุบันราคาจำหน่ายกุ้งรวมที่ปากบ่อ กก.ละ 250 บาท ขณะที่นำไปส่งลูกค้า หรือตามร้านอาหารต่างอำเภอ ต่างจังหวัด เริ่มต้นที่ 280-500 บาท ตามระยะทาง เพราะต้องบวกเพิ่มค่าขนส่งด้วย
ขณะที่นางสาวพัชราวลัย ไร่ไสว อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 401 หมู่ 4 บ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ หัวหน้ากลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทางเลือกใหม่บ้านตูม กล่าวว่า ในการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามของกลุ่มในปีนี้ ถือเป็นรุ่นพิเศษ โดยจะนำผลผลิตออกสู่ตลาดในช่วงเทศกาลปีใหม่ และต่อเนื่องถึงเทศกาลสงกรานต์ปีหน้า ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาการเลี้ยงกุ้งขาดทุนและให้มีกำไร พร้อมกับยกระดับคุณภาพกุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์ ให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยส่งเสริมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่เป็นสมาชิกของกลุ่ม ทำการคัดแยกบ่อเลี้ยง ที่เรียกว่ากุ้งคัดไซส์ ซึ่งจะเป็นการลดความหนาแน่นของกุ้งในบ่อ ทำให้กุ้งโตเร็ว อายุ 4 เดือนจับจำหน่ายได้ โดยกุ้งได้ขนาดตัวโต น้ำหนักดี 15 ตัวต่อ ก.ก. จากเดิมกุ้งหนาแน่น โตช้า 7 เดือนจับจำหน่าย ทำให้สิ้นเปลืองอาหารและจำนวนกุ้ง เพราะต้องใช้กุ้งถึง 25-30 ตัวต่อ ก.ก. จำหน่ายที่ปากบ่อ ก.ก.ละ 250 บาท ส่งลูกค้า กก.ละ 340-500 บาทเท่านั้น
นางสาวพัชราวลัย กล่าวอีกว่า จากการเลี้ยงกุ้งแบบใหม่ นอกจากจะเป็นการอัพเกรดกุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์ให้มีคุณภาพมากขึ้นแล้ว ยังทำให้กุ้งโตเร็ว ประหยัดเวลา ประหยัดจำนวนกุ้ง ขายได้ราคาสูงขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค และเกษตรกรให้ความสนใจมาเลี้ยงกันมากขึ้น ถือเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคทั่วไป ที่ต้องการบริโภคกุ้งตัวโต ที่แตกต่างจากเดิมที่บริโภคกุ้งรวม ซึ่งตัวขนาดเล็กกว่า ทั้งนี้ ราคาจำหน่ายกุ้งอัพเกรดหรือกุ้งรุ่นคัดไซส์พิเศษเฉลี่ยอยู่ที่ 15 ตัวต่อ ก.ก. ที่ปากบ่อราคา ก.ก.ละ 300 บาท ส่งลูกค้า ก.ก.ละ 700 บาท คาดว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์ออกสู่ตลาดไม่น้อยกว่าวันละ 6 ตัน เงินสะพัดกว่าวันละ 3 ล้านบาท