รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งซ้ำซากให้กับเกษตรกรในตำบลกุดหว้า อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ให้กับเกษตรกรที่บ้านกุดหว้า ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์
โดยเป็น 1 ใน 30 พื้นที่โครงการทั่วประเทศ ที่มีระบบสูบน้ำบาดาลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ดึงน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ประโยชน์ ให้เกษตรกรมีน้ำใช้ในการเพาะปลูกพืช สร้างรายได้ในช่วงหน้าแล้ง และแก้ปัญหาภัยแล้งซ้ำซากในพื้นที่ โดยมีนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายพิชัย ส่งสุขเลิศสันติ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ นายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ นายพิชิต สมบัติมาก ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ขอนแก่น นายภิรมย์ อุทรักษ์ นายกอบต.นาไคร้ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำท้องถิ่นและประชาชนให้การต้อนรับ
จากนั้นนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะเข้าเยี่ยมชมผลผลิตทางการเกษตรของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้น้ำและได้รับประจากโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงในครั้งนี้
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สำหรับโครงการน้ำบาดาลแห่งนี้ เป็นโครงการที่ทันสมัยและมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจาก 30 แห่ง โดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เห็นถึงความสำคัญ และได้อนุมัติงบประมาณให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ให้ประชาชนกินดีอยู่ดี มีความสุข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำกินน้ำใช้ หรือน้ำเพื่อการเกษตร รวมทั้งเป็นการลดต้นทุนในการผลิต เพิ่มรายได้ให้แก่ครัวเรือน เบื้องต้นกรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะเป็นพี่เลี้ยงในการดูแลระบบให้ก่อนที่จะส่งมอบให้ท้องถิ่นดูแลต่อไป
ด้านนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล เพื่อการเกษตรด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 บ้านกุดหว้า หมู่ที่ 2 ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เป็น 1 ใน 30 พื้นที่โครงการ ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งให้ได้ใช้ประโยชน์จากน้ำบาดาลในการเกษตรกรรม รูปแบบโครงการ ประกอบด้วย บ่อน้ำบาดาลขนาดความลึก 80 – 100 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 5.5 แรงม้า จำนวน 4 บ่อ ถังเหล็กเก็บน้ำขนาดความจุ 120 ลบ.ม. จำนวน 4 ถัง ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 5,120 วัตต์ พร้อมติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้าขนาด 10 กิโลวัตต์ จำนวน 4 ชุด สามารถสูบน้ำบาดาลขึ้นมาได้มากถึง 12 ลบ.ม./ชั่วโมง มีระยะในการส่งน้ำไกลถึง 3 กิโลเมตร เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นทางการเกษตร จำนวนกว่า 760 ไร่ เกษตรกรได้รับประโยชน์ 48 ราย ได้ปริมาณน้ำกว่า 2 แสน ลบ.ม./ปี
ขณะที่นายทองเหรียญ แพงพุฒ อายุ 80 ปี เกษตรกรบ้านกุดหว้า ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ หนึ่งในเกษตรกรใช้น้ำ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ ต.กุดหว้านั้นส่วนใหญ่ประชาชนประกอบอาชีพทำการเกษตร และอาศัยน้ำฝน เป็นหลัก ทำนา ปลูกพืชได้ปีละครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ตนอายุ 80 ปีแล้ว ในช่วงหน้าแล้งไม่เคยได้ปลูกพืช เพราะไม่มีน้ำ กระทั่งมีโครงการดังกล่าวสูบน้ำบาดาลขึ้นมา ทำให้ชาวบ้านดีใจอย่างมาก เพราะมีน้ำใช้เพาะปลูกพืช ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับกับประชาชน ส่วนพื้นที่ของตนนั้นก็ปลูกข้าวโพด 10 ไร่ ตั้งเป้าหมายว่าจะนำไปขายนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว อย่างไรก็ตามขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีโครงการดังกล่าวนี้ขึ้นมา