เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 10 พ.ค. 2567 ที่ฐานปฏิบัติการกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2110 อำเภอสังคม จ.หนองคาย พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2, พลตรีนรธิป โพยนอก ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พ.ต.อ.จามร อันดี รองผบก.ภ.จ.หนองคาย, นายประทีป อุ่ยเจริญ ปลัดจังหวัดหนองคาย, นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอสังคม,พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร , ตชด., ปปส., ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติด 4 คน ประกอบด้วย นายประสิทธิ์ เศษสม อายุ 53 ปี, นายประโท ร้อยแสง อายุ 48 ปี, นายนิยม บรบุตร อายุ 54 ปี, นายสราวุธ บรบุตร อายุ 39 ปี ทั้งหมดเป็นชาวบ้านม่วง ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย พร้อมของกลางเป็นไอซ์ จำนวน 198 ก้อน น้ำหนัก 1,404 กิโลกรัม มูลค่าไอซ์ที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้หากสามารถส่งออกไปประเทศที่สามได้จะมีมูลค่าสูงถึง 2,500 ล้านบาท และ พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จ.หนองคาย ได้นำกำลังชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย เข้าตรวจค้น 4 จุด เพื่อขยายผลยึดทรัพย์และสามารถ ยึดทรัพย์ รถยนต์โตโยต้า ฟอจูนเนอร์ 1 คัน, รถจักรยานยนต์ 2 คัน , รถแทรคเตอร์ คูโบต้า 1 คัน , บ้านพร้อมที่ดิน 69 ตารางวา, เงินฝากในบัญชีธนาคาร 2 ล้านบาทเศษ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 7.5 ล้านบาท
การจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารพราน และ ตชด. ได้สืบทราบว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านมาขึ้นฝั่งบริเวณบ้านม่วง จึงวางแผนกำลังจับกุม โดยเมื่อกลางดึกวันที่ 4 พ.ค.67 นายประสิทธิ์ ได้ขับรถยนต์ไปรับยาเสพติดที่ฝั่งลาวจำนน 9 กล่อง จากนั้นนำไปเก็บรักษาไว้ที่กระท่อมมี่เลขที่ เขตตำบลบ้านม่วง โดยมีประโท นายนิยม และนายสราวุธ ช่วยกันขนย้ายยาเสพติดเก็บยังที่ซ่อน จากนั้นในวันที่ 7 พ.ค.67 นายประสิทธิ์ ได้ไปรับยาเสพติดที่ริมแม่น้ำโขง ท่าเรือบ้านภูเขาทอง ต.บ้านม่วง อ.สังคม มีชาวลาวนำยาเสพติด 20 กล่องใส่ลงเรือมาส่งให้ จากนั้นนายประสิทธิ์และพวกได้นำยาเสพติดทั้งหมดไปเก็บไว้ที่บ้านของนายสราวุธ จนกระทั่งวันที่ 8 พ.ค.67 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมทั้งหมดได้พร้อมของกลางยาเสพติด ตรวจพิสูจน์แล้วเป็นยาเสพติดประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์)
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า นายประสิทธิ์ ได้รับการติดต่อจากชาวลาวคนหนึ่งให้ไปรับยาเสพติด ทั้งที่ต้องเดินทางไปรับด้วยตนเองที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และรอรับที่ริมแม่น้ำโขงฝั่งไทย จากนั้นนำมาเก็บรักษาไว้รอทำการขนย้ายเข้าพื้นที่ตอนในของประเทศ และลักลอบนำส่งออกไปยังประเทศที่สาม หลังจากการแถลงข่าวแล้วได้นำของกลางและผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.นางิ้ว ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.