อดีตพยาบาลสาวชาวอำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ลาออกจากงานผันชีวิตมาทำเกษตรผสมผสาน สร้างอาชีพสู้ภัยโควิด-19 ทั้งเลี้ยงไก่ดำ ปลูกผักหวาน ปลูกไผ่ เลี้ยงด้วงขายสร้างรายได้เดือนละแสน
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีอดีตพยาบาลสาวได้ลาออกจากงานกลับมาบ้าน เพื่อมาทำเกษตรผสมผสาน ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงลงพื้นที่ไปที่บ้านเลขที่ 252 บ้านโนนสำราญ ม.5 ต.กุดสิมคุ้มใหม่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.ธัญลักษณ์ มหัทธนยศนันท์ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นอดีตพยาบาลที่ลาออกมาทำการเกษตรและเปิดเป็นฟาร์มการเกษตร ชื่อพรเจริญฟาร์ม
โดย น.ส.ธัญลักษณ์ ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานเป็นพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ซึ่งในระหว่างที่ยังทำงานประจำอยู่ก็ได้ลองลงมือทำการเกษตร โดยการปลูกพืชก่อนเป็นอันดับแรกเช่น ปลูกกล้วย ผักหวาน ปลูกไผ่สายพันธุ์ต่างๆ ไว้ที่สวนของตนเองที่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งจะเดินทางกลับมาดูแลสวนทุกๆวันหยุด จาก จ.ชลบุรี-มาที่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ทำลักษณะนี้อยู่ประมาณ 2 ปี พบว่า การปลูกพืชอย่างเดียวยังไม่ตอบโจทย์ และรายได้ที่เข้ามายังน้อยมาก ทั้งนี้ที่ผ่านมาเคยศึกษาการเลี้ยงไก่ดำเชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองได้อย่างแน่นอน อีกทั้งหลังจากที่ทำงานมาหลายปีตนเองก็รู้สึกว่าเหนื่อย กับการทำงานที่ทำอยู่ ประกอบกับเป็นคนที่ชอบเรื่องการเกษตรอยู่แล้ว จึงตัดสินใจลาออกจากงาน กลับมาทำเกษตรแบบผสมผสานอย่างจริงจังที่บ้าน
น.ส.ธัญลักษณ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นจึงลงมือทำการเกษตรแบบผสมผสานอย่างจริงจัง โดยมีพื้นที่ 6 ไร่ แบ่งทำนา 2 ไร่ สระน้ำเลี้ยงปลา 1 ไร่ ปลูกไผ่ 1 ไร่ ส่วนที่เหลือทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์หลายอย่าง ทั้งเลี้ยงไก่ดำ KU ภูพาน ขายลูกอายุ 21 วัน ตัวละ 50 บาท อายุ 1 เดือนขายตัวละ 70 บาท อายุ 2 เดือนขายตัวละ 150บาท ไก่ดำชำแระขายกิโลกรัมละ180 บาท โดยก็มีลูกค้าประจำทั้งต่างจังหวัดและแถวๆใกล้บ้าน ปลูกผักหวานเก็บยอดขาย กิโลกรัมละ 300 บาท และบางครั้งก็จำหน่ายเมล็ดด้วย ปลูกไผ่กิมซุงตัดหน่อขายโดยการชั่งเป็นกิโลกรัมๆละ 50 บาท เลี้ยงด้วงสาคูขายปลีก กิโลกรัมละ 250 บาท ราคาส่งกิโลกรัมละ 200 บาท นอกจากนี้ยังเลี้ยงหนูนาหรือหนูพุกขายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ซึ่งจะขายเป็นชุด โดยหนูอายุ 3-4 เดือนตัวผู้ 1 ตัวและตัวเมีย 2 ตัว จะขายอยู่ที่ราคา 1,000 บาท และขายเป็นหนูเนื้อกิโลกรัมละ 200-250 บาท และตอนนี้กำลังวางแผนที่จะเลี้ยงหอยเชอรี่กับปลาไหลเพิ่มเติม เพื่อที่จะได้มีรายได้ให้เข้ามาตลอดทั้งปี
น.ส.ธัญลักษณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการทำเกษตรผสมผสานและเลี้ยงสัตว์ที่ทำอยู่นั้น นอกจากจะเป็นสร้างอาชีพให้กับตนเองมีงานทำในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว อาชีพนี้ยังลดความเสี่ยงในการทำงานในสถานที่ ที่มีผู้คนแอดอัด อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัวในการสู้ภัยโควิด-19 เฉลี่ยประมาณ 100,000บาท ต่อเดือน ซึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะเหลือเก็บเดือนละประมาณ 70,000-80,000 บาท ถือว่าเป็นรายได้ที่มากพอสมควรในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ ซึ่งจะเห็นว่าอาชีพการเกษตรนั้นยังมีเสน่ห์ มีอนาคต และสามารถสร้างรายได้แบบยั่งยืน เฉพาะในยุคโควิดระบาด หากเปลี่ยนวิธีคิด อย่างไรก็ตามสำหรับท่านที่ต้องการสอบถาม หรืองต้องการเข้ามาเยี่ยมชมฟาร์ม ก็สามารถสอบถามได้ทาง Facebook ไก่ดำ ไก่บ้าน พรเจริญฟาร์ม หรือโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 097-0821444