ชาวนาบุรีรัมย์ต่างดีใจที่รัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือค่าปุ๋ยคนละครึ่ง เชื่อสามารถแบ่งเบาภาระต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นได้ เพราะปัจจุบันทั้งราคาปุ๋ย น้ำมัน และค่าไถแพงขึ้นเกือบเท่าตัว ทั้งฝากรัฐบาลช่วยผลักดัยราคาข้าวไม่ให้สูงถึง ก.ก.ละ 20 บาทชาวนาถึงจะพ้นภาระหนี้สิน
หลังจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ(นบข.) มีมติเห็นชอบโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2567/2568 โดยรัฐบาลจะช่วยครึ่งหนึ่งและชาวนาจ่ายอีกครึ่งหนึ่ง ผ่านดำเนินการผ่านแอปพลิเคชั่นของ ธ.ก.ส. ซึ่งจะสนับสนุนปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และชีวภัณฑ์ ไม่เกินไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ เป้าหมาย 4.68 ล้านครัวเรือน
วันนี้ (14 มิ.ย.67) ทีมข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจแปลงนาในหมู่บ้านปีกฝาย ต.หนองตาด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งส่วนใหญ่ทำนาหว่านและช่วงนี้อยู่ระหว่างรอฝนตกลงมาหล่อเลี้ยงเพื่อใส่ปุ๋ยบำรุงต้นข้าวที่หว่านไปแล้ว บางคนจึงกำจัดวัชพืชออกจากแปลงนา และตัดหญ้าที่ปกคลุมตามคันนา รอฝนตกเพื่อใส่ปุ๋ย เมื่อทราบว่ารัฐบาลมีโครงการจะช่วยเหลือค่าปุ๋ยคนละครึ่งรัฐครึ่งหนึ่งชาวนาครึ่งหนึ่ง ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นโครงการที่ดี เพราะจะสามารถช่วยแบ่งเบาต้นทุนในการทำนาได้เป็นอย่างดี เนื่องจากปัจจุบันชาวนาต้องแบกรับภาระต้นทุนค่อนข้างสูง ทั้งราคาปุ๋ย น้ำมัน และค่าไถแพงขึ้นมาก แต่ก็ยังต้องทำนาเพื่อเก็บผลผลิตไว้บริโภค และขายในยามจำเป็น
โดยนายสวัสดิ์ สะภู ชาวนาบ้านปีกฝาย ต.หนองตาด บอกว่า ทำนาจำนวน 5 ไร่เฉลี่ยต้นทุนทั้งค่าไถ ค่าปุ๋ย และค่าเก็บเกี่ยวตกไร่ละ 2 -3 พันบาท ทั้งยังต้องเสี่ยงกับภัยธรรมชาติ หากปีไหนประสบภาวะภัยแล้งฝนทิ้งช่วงก็แทบไม่ได้ผลผลิตเลย ซึ่งหากรัฐบาลช่วยค่าปุ๋ยคนละครึ่งก็จะสามารถช่วยแบ่งภาระต้นทุนของชาวนาได้ แต่หากเป็นไปได้อยากฝากถึงรัฐบาลช่วยดูแลผลักดันเรื่องราคาข้าวด้วย เพราะถึงแม้จะได้ผลผลิตดีแค่ไหน หากราคาตกต่ำก็ไม่เกิดประโยชน์กับชาวนาเลย หากเป็นไปได้อยากได้กิโลกรัมละ 20 บาทชาวนาถึงจะพ้นภาระนี้สินและลืมตาอ้าปากได้บ้า