ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะลงพื้นที่จัดกิจกรรมโครงการ “แว่นสวยตาใส ห่วงใยดวงตา” โดยมอบแว่นสายตา มอบแสงสว่างให้กับประชาชนในตำบลขมิ้น อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมรณรงค์เชิญชวนประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุฉีดวัคซีน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติบ้านคำปลาฝา ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายณัฐวัชต์ พิมพะนิตย์ สจ.อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เขต 4 และรองประธานสภาอบจ.กาฬสินธุ์ นายกีรฒิการย์ พิมพะนิตย์ เลขานุการนายกอบจ.กาฬสินธุ์ พร้อมคณะลงพื้นที่จัดกิจกรรมโครงการ “แว่นสวยตาใส ห่วงใยดวงตา” โดยนำแว่นสายตาไปมอบให้กับประชาชนบ้านคำปลาฝา ม.7 บ้านโนนชัย ม.8 บ้านโนนทอง ม.9 และบ้านโนนนคร ม.10 ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ฟรี พร้อมรณรงค์สร้างความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน และเชิญชวนประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุฉีดวัคซีน ป้องกันโควิด-19 หยุดเชื้อ เพื่อชาติ โดยมีนางพวงทอง ทรงเจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลขมิ้น ผู้นำชุมชน และอสม.ตั้งจุดคัดกรอง กำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ หลังจากมีการมอบแว่นสายตาให้กับประชาชนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการทดสอบสายตาทันที โดยให้ตัวแทนชาวบ้าน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุแหย่รูเข็มแข่งกัน เพื่อทดสอบสายตาหลังจากได้รับแว่นตา ซึ่งสร้างความสนุกสนาน สามัคคี และเสียงหัวเราะให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ก่อนที่คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะเดินทางนำแว่นตาไปมอบให้กับประชาชนที่บ้านนาโก ม.4 และบ้านนาอินทร์แปลง ม.5 ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ต่อไป
นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วันนี้เป็นการนำแว่นสายตาที่ส่วนหนึ่งได้รับมาจากผู้ใหญ่ใจดีมามอบให้กับพี่น้องประชาชนใน ต.ขมิ้น อ.เมืองกาฬสินธุ์ ที่มีปัญหาในเรื่องสายตา โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เนื่องจากดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญในการดำเนินชีวิต ทั้งการประกอบอาชีพ และการสื่อสารต่างๆ เพื่อให้มองเห็นชัด นอกจากนี้ยังเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพราะการตรวจวัดและตัดแว่นสายตามีราคาค่อนข้างสูง อีกทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกประชาชนที่อยู่ห่างไกล ไม่ต้องเดินทางไปตรวจวัดสายในเขตเมืองอีกด้วย
นายวิรัช กล่าวอีกว่า สำหรับการรณรงค์ฉีดวัคซีนนั้น จากการลงพื้นที่ร่วมกับพี่น้อง อสม.มาแล้วหลายตำบลพบว่า ประชาชนมีความเข้าใจและเห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีนมากขึ้น และในวันนี้ก็ได้มีการรณรงค์ให้ประชาชนออกมาฉีดวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุนั้นมีความต้องการที่ฉีดวัคซีน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ สร้างภูมิคุ้มกันหมู่กันจำนวนมาก เพื่อร่วมกันให้ประชาชนคนไทยสามารถถอดหน้ากากกลับเข้าสู่ประเทศสยามเมืองยิ้ม และสามารถปฏิบัติหน้าที่และทำมาหากินได้ตามปกติโดยเร็ว