ที่ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญากลองยาวอีสาน บ้านเขวา ต.เหล่า อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ดร.สุชาติ อุทัยวัฒน์ ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการกฎหมายและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฏร รัฐสภา เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญากลองยาวอีสาน เพื่อให้เยาวชนและประชาชนทั่วไป ได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม และร่วมกันสืบสานต่อยอมความรู้เรื่องราวเกี่ยวกับกลองยาวอีสาน
สิบเอกสรศาสตร์ ลามาตร์ ผู้อำนวยการศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องกลองยาวอีสาน ต.เหล่า อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์กองยาวอีสาน มีวัตถุประสงค์เพื่อ เป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา 28 กรกฏาคม 67 เพื่อเป็นการส่งเสริมเยาวชนและคนในชุมชนได้มีโอกาสเรียนรู้วิธีการละเล่นกลองยาวอีสาน เพื่อเป็นการเสริมสร้างพลังการอนุรักษ์สืบสานประเพณีกลองยาวอีสานและให้เด็กและเยาวชนห่างไกลยาเสพติด และเพื่อเป็นการสร้างคุณค่าและเชิดชูศิลปวัฒนธรรมกองยาวอีสานให้เป็นเอกลักาณ์ของคนในพื้นที่ ซึ่งในการเปิดศูนย์การเรียนรู้นี้เพราะเล็งเห็นในการที่จะผลิตต้นกล้าทางวัฒนธรรมกลองยาวอีสาน เบื้องต้นจะได้มีการถ่ายทอดความรู้ ให้สถาบันการศึกษาในพื้นที่ ได้มีการสลับสับเปลี่ยน หมุนเวียนมาเรียนรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์ของการทำ การเล่น การตีกลองยาว เพื่อที่จะได้นำไปถ่ายทอด และต่อยอดในการละเล่นในคณะของตนเอง
สำหรับการผลิตกลองยาวหรือว่าการทำกลองยาวนั้นตั้งแต่อดีตกาลหรือว่าสมัยโบราณ จะเป็นการทำมือโดยมีเครื่องมืออาชีพหรือว่าขวานทำมีด มีดจะเป็นเล่มใหญ่ ๆ เป็นมีดอีโต้ภาษาอีสานเรียกว่า ก่น หรือขุดเป็นโพรง เป็นเต้า ให้มีเสียงดังกังวาน นอกจากกลองยาวแล้ว ก็จะมีกลองรำมะนา ซึ่งก็เป็นกลองอีกชนิดหนึ่ง ผลิตเช่นเดียวกัน แต่ในปัจจุบันนี้มีเครื่องมือที่ทันสมัยมากขึ้น ก็จะมีเครื่องกลึงให้ไม้เป็นรูปทรงต่าง ๆ รวมถึงเสียง ความสวยงาม ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่างแต่ละคนก็จะมีความชำนาญ ตัวกลอง ความดังกังวาน ใส สูงโปร่ง ก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งก็แล้วแต่ช่างจะรังสรรค์ออกมาแล้วก็เพื่อให้เป็นการเปิดตลาดสู่สากลโลกให้กลองยาวได้มีพื้นที่ในตลาดวัฒนธรรมทุกตลาด