แม่หอบหลักฐานโร่ร้องทนายอั๋นบุรีรัมย์ คาใจลูกสาวตายขณะถูก ตร.จับคดีเสพติด เผยพบพิรุธหลายอย่างทั้งร่องรอยขีดข่วนตามร่างกายคล้ายถูกทำร้าย สร้อยข้อมือหนัก 5 บาทไม่เจอ และกางเกงในหาย ด้าน ผกก.แจงผู้ตายเทยาบ้าใส่ขวดน้ำแล้วดื่มเพื่อทำลายหลักฐานเกิดภาวะช็อก ก็รีบนำส่ง รพ.ทันที ส่วนข้อสงสัยเรื่องทรัพย์สินสามารถชี้แจงได้ตามบันทึกจับกุม และคลิปหลักฐาน ยันทำตาม กม.
นางสุภาพร กาญจนะ อายุ 56 ปี ชาว อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ได้หอบหลักฐานทั้งรูปถ่าย และเอกสารรับรองสาเหตุการตาย เข้าร้องนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋นบุรีรัมย์ ให้ช่วยเหลือหลังคาใจกรณีที่ น.ส.สุพรรณษา มงกุฎทอง หรือแป้ง อายุ 30 ปี ลูกสาว เสียชีวิตขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูเมือง ล่อซื้อจับกุมคดียาเสพติด เมื่อเวลาประมาณตี 2 กว่า หรือเช้ามืดของวันที่ 12 ก.ค.67 ที่ผ่านมา ก่อนจะเสียชีวิตในวันที่ 13 ก.ค.67 ด้วยภาวะ “ระบบไหลเวียนโลหิต และการหายใจล้มเหลว สงสัยเรื่องสารพิษ” โดยมีข้อพิรุธหลายประเด็นที่แม่ติดใจสงสัย เช่น ลูกถูกนำตัวส่ง รพ.ด้วยภาวะช็อกหมดสติ ซึ่งมาทราบภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขณะลูกถูกจับได้เทยาบ้าจำนวนมากใส่ในขวดน้ำเปล่าให้ละลายแล้วยกดื่ม เพื่อจะทำลายหลักฐาน จนทำให้เกิดภาวะช็อก แต่ทำไมตำรวจถึงโทรศัพท์ไปแจ้งแม่ว่าน้องประสบอุบัติเหตุรถชน อาการสาหัสถูกส่งรักษาที่ รพ. แล้วหากน้องดื่มน้ำที่ผสมยาบ้าจำนวนมากเข้าไปจริง ทำไมไม่รีบพาน้องส่ง รพ.เพื่อให้แพทย์รักษา แต่กลับปล่อยให้น้องช็อกก่อน อีกทั้งตอนไปขอรับเสื้อผ้าของน้อง พบเสื้อผ้าอย่างอื่นอยู่ครบรวมถึงเสื้อชั้นในด้วย แต่กางเกงในกลับหายไป ซึ่งผิดวิสัยที่น้องเป็นผู้หญิงจะออกจากบ้านแล้วเป็นไปไม่ได้ที่ไม่ใส่กางเกงใน ที่สำคัญบริเวณขาและตามร่างกายมีร่องรอยขีดข่วนด้วย อีกทั้งทรัพย์สินที่ลูกสาวสวมใส่ติดตัวไป เช่น สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท แต่ตอน ตร.ให้ไปเซ็นรับทรัพย์สินพบเป็นสร้อยปลอม และกำไลแขนทองน้ำหนัก 5 บาทก็ไม่เจอ มีเพียงมือถือไอโฟน จี้พระ กระเป๋า และของใช้ส่วนตัวเท่านั้น จึงขอส่งศพไปผ่าชันสูตรที่ รพ.ศิริราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง แต่จากข้อพิรุธหลายอย่างทำให้แม่คาใจเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว หากน้องกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจริงก็ควรจะได้เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย แต่นี่เสียชีวิตขณะถูกจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ก็ต้องรับผิดชอบ จึงได้มาร้องให้ทนายอั๋นช่วยเหลือ เพื่อรวบรวมหลักฐานยื่นฟ้องต่อศาลาอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 จ.สุรินทร์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาว หากตำรวจชุดจับกุมกระทำผิดจริง ก็อยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด
ด้านนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บอกว่า กรณีที่แม่มาร้องให้ช่วยเหลือเนื่องจากติดใจสาเหตุการตายของลูกสาวในระหว่างถูก ตร.จับกุม เพราะมีข้อพิรุธสงสัยหลายประเด็น ทั้งเรื่องทรัพย์สินที่ไม่ครบ รวมถึงไม่พบกางเกงใน ทั้งมีร่องรอยคล้ายถูกทำร้ายตามร่างกาย เนื่องจากกฎหมายไทยมี พ.ร.บ.อุ้มหาย และป้องกันการทรมาน จึงสงสัยว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจชุดจับกุม ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายครบถ้วน หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ดังนั้นแม่จึงมาร้องให้ช่วยเหลือด้วยการไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาทุจริตภาค 3 โดยไม่ประสงค์จะแจ้งความหรือร้องเรียนผู้บังคับบัญชาเพราะไม่มีความเชื่อมั่น ซึ่งคดีนี้มีข้อพิรุธหลายอย่างที่ทำให้แม่ติดใจสงสัย ก็จะมีการรวบรวมหลักฐานยื่นฟ้องศาลฯ ต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผู้กำกับการ สภ.คูเมือง ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า สืบเนื่องจากคืนวันที่ 12 ก.ค.67 มีการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติด จำนวน 600 เม็ด แล้วมีการซัดทอดว่ารับยาบ้ามาจาก น.ส.สุพรรษา จึงมีการขยายผลล่อซื้อจับกุมตามขั้นตอน โดยล่อซื้อยาบ้า 400 เม็ด จากนั้น น.ส.สุพรรษา ขับรถเก๋งเอายาบ้ามาส่งที่บ้านของหนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งตำรวจก็ปิดล้อมรถไว้และแสดงตัว แต่ น.ส.สุพรรษา ปิดล็อกประตูไว้ แล้วเทยาบ้าใส่ขวดน้ำดื่ม เพื่อทำลายหลักฐาน ทางตำรวจก็พยายามทุบกระจกแต่ไม่แตก จึงทุบกระจกประตูหลังแล้วนำตัว น.ส.สุพรรษา ลงจากรถ ตอนแรกน้องก็ดูปกติดีทางชุดจับกุมก็แจ้งสิทธิให้ทราบ จากนั้น 4 – 5 นาที่น้องเริ่มมีอาการไม่ค่อยดี ตำรวจจึงรีบนำตัวขึ้นรถตู้เพื่อส่ง รพ.คูเมือง ก่อนที่จะถูกส่งต่อไปยัง รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ ไม่ได้ส่งล่าช้าเพราะเห็นอาการไม่ดีก็รีบนำส่งทันที
ส่วนที่แม่ติดใจเรื่องทรัพย์สินของน้องก็มีการทำบันทึกตรวจยึดไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งตามบันทึกก็มีสร้อยวัตถุคล้ายทอง 1 เส้น ไม่ใช่ทองจริง โทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง ส่วนสร้อยข้อมือ 5 บาทที่แม่บอกว่ามียืนยันว่าไม่มี ส่วนที่แม่ติดใจว่าทำไมตอนแรกใส่กางเกงขาสั้นที่เป็นชุดนอน แต่ตอนไป รพ.บุรีรัมย์ทำไมใส่กางเกงขายาว เนื่องจากน้องบอกว่าหนาวซึ่งน้องบอกว่ามีเสื้อผ้าหลังรถเจ้าหน้าที่จึงให้นำมาสวมใส่ และที่ติดใจกรณีไม่พบกางเกงในนั้น ทางตำรวจก็บอกไม่ได้ว่าน้องใส่หรือไม่ใส่ ซึ่งเบื้องต้นก็ได้เปิดคลิปการจับกุมในวันเกิดเหตุให้แม่ผู้เสียชีวิตได้ดูแล้ว ทั้งนี้ยังได้ประสานพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบรถแล้ว ขณะนี้ก็รอผลผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายของ รพ.ศิริราช ยืนยันว่าตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่และกฎหมาย ซึ่งก็มีหลักฐานเป็นภาพเคลื่อนไหวยืนยัน และจะส่งคลิปดังกล่าวให้อัยการจังหวัดตามกระบวนการ ส่วนที่ น.ส.สุพรรษา เสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัว ซึ่งอาจเกิดจากการดื่มน้ำที่ผสมยาบ้าปริมาณมาก ทางตำรวจเองก็เสียใจและไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น แต่หากญาติติดใจก็มีสิทธิ์ที่จะร้องให้ตรวจสอบได้ตามกระบวนการขั้นตอน ตำรวจก็พร้อมอธิบายตามข้อเท็จจริ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.สุพรรษา พบเคยถูกจับกุมคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดเมื่อปี 2559 และปี 2566 ก็ถูกตำรวจพุทไธสง จับกุมฐานจำหน่ายยาเสพติด อยู่ระหว่างประกันตัว