วันที่ 16 สิงหาคม 2567 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.สิทธิ์ ศิริกังวาลกุล รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน รอง ผบก. ตม.4, พ.ต.อ.พิทักษ์พงษ์ เจริญกุล ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร, พ.ต.ท.ธนูศิลป์ ดวงแก้วงาม รอง ผกก. ตม.จว.มุกดาหาร และ ว่าที่ พ.ต.ท.พิชิต มัครมย์ สว.ตม.จว.มุกดาหาร
ตามนโยบายของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. ให้ X-ray พื้นที่สุ่มเสี่ยง และตรวจสอบบุคคลสัญชาติเป้าหมาย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ตม.จว.มุกดาหาร จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนทราบว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติปากีสถาน แอบเข้ามาแฝงตัวอยู่ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 67 เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ฯได้ติดตามสะกดรอยจนพบ MR.MUHAMMAD SHAHID (นายมูฮาหมัด ซายิด) อายุ 44 ปี สัญชาติ ปากีสถาน (ทราบชื่อ-สกุล และอายุภายหลัง) นั่งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อิเลฟเว่น ภายในปั๊ม ปตท.สาขาหอแก้ว ต.ศรีบุญเรือง อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และขอตรวจสอบเอกสารประจำตัว ปรากฏว่าผู้ถูกจับยื่นหนังสือเดินทางปากีสถานหมายเลข KW5148743 มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ฯ จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางดังกล่าว ไม่พบการตรวจลงตราอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักร
จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯจึงเชิญตัวมาตรวจสอบเพิ่มเติม ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร เมื่อตรวจสอบจากระบบสารสนเทศสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (Biometrics) ปรากฏว่าไม่พบข้อมูลประวัติการเดินทาง แต่เมื่อตรวจสอบจากระบบ Blacklist พบว่าคนต่างด้าวดังกล่าวเป็นบุคคลต้องห้าม ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยได้
จากการสอบถาม นายมูฮาหมัด ซายิด ผู้ถูกจับ รับว่าได้แอบลักลอบเข้ามาทางแนวตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย เจ้าหน้าที่ฯจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จึงได้ควบคุมตัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และดำเนินการขยายผลหากลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือให้การช่วยเหลือต่อไป