วันที่ 27 สิงหาคม 2567 เวลา 09.00 น. เทศบาลตำบลหนองบัวบานได้รับแจ้งจาก อบต.น้ำพ่น ว่ามีเหตุชาวบ้านออกไปหาปลาด้วยเรือหางยาวติดเครื่องยนต์ แล้วถูกลมพายุฝนพัดเข้าไปติดอยู่กองสนมและวัชพืชน้ำนาน 2 วัน เหตุเกิดในอ่างเก็บน้ำห้วยหลวง ด้านทิศใต้ เขตบ้านหนองบัวบาน ม.1 ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงประสานไปยัง ศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เขต 14 อุดรธานี (ปภ.14) สภ.หนองวัวซอ และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถานรุดไปตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ไปรวมตัวกันอยู่ริมอ่างเก็บน้ำห้วยหลวง ฝั่งติดกับวัดป่านิโคธาราม ญาติและเพื่อนของผู้ประสบเหตุได้เดินทางมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ทราบชื่อผู้ประสบเหตุภายหลังว่า นายแทน สีหารัตน์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 บ.น้ำพ่นเหนือ ม.4 ต.น้ำพ่น อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี หลังจากนั้นญาติได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายแทน ซึ่งโชคดีว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือยังเหลือพอที่จะพุดคุยได้ ทราบว่ายังมีอาการปลอดภัยดี แต่สภาพโดยรอบเรือถูกอัดแน่นไปด้วยวัชพืช ทั้งจอกหูหนูยักษ์ ผักตบชวา เป็นจำนวนมาก จึงไม่สามารถที่จะเคลื่อนเรือออกมาได้ จากนั้นก็โบกร่มไปมาเพื่อส่งสัญญาณให้ทราบพิกัดที่ติดอยู่
นายลำพูล บัวพัน อายุ 52 ปี อพปร. เล่าว่า หลังรับแจ้งจึงลงพื้นที่มาดูตรงจุดที่ใกล้ที่สุด พบว่าอยู่ติดกับฝั่งวัดป่านิโคธาราม ห่างจากฝั่งไปประมาณ 1.4 กม. เช็คระยะจากที่เคยลงเรือเช็คระยะมาแล้ว ซึ่งบริเวณนั้นเป็นกลุ่มแผ่นสนมขนาดใหญ่ จากรับแจ้งทราบว่าติดมานานกว่า 2 วันแล้ว
ด.ต. เจริญ จันทร์รักษ์” ผบ.หมู่จราจร สภ.เมืองอุดรธานี เล่าว่า เบื้องต้นได้ประสานไปยัง ปภ.14 แล้ว เพื่อนำเฮลิคอปเตอร์มารับตัวผู้ประสบภัย และประสานผู้ประสบภัยให้ผูกมัดรัดตึงตัวเอง หรืออุปกรณ์ต่างๆให้แน่นหนา เนื่องจากขณะอยู่ใต้เฮลิคอปเตอร์จะมีลมแรง ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ประสบภัยได้ เมื่อนำตัวขึ้นมาได้ก็จะเร่งนำไปส่งต่อทีมกู้ชีพที่กองบิน 23 เพื่อตรวจเช็คร่างกายผู้ประสบภัยอย่างละเอียดอีกครั้ง ช่วงแรกเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันวางแผนในการเข้าช่วยเหลือในภาคพื้นน้ำ แต่จากการสรุปข้อมูลร่วมกัน พบว่าทิศทางลมยังคงพัดเข้าหาฝั่งมาทางทิศใต้ หมายความว่ากลุ่มวัชพืชน้ำจะยังไม่กระจายตัวออก เรือต่างๆจึงยังไม่สามารถเข้าไปถึงจุดดังกล่าว จึงได้เปลี่ยนแผนประสานเฮลิคอปเตอร์จาก ปภ.14 เข้ามาสนับสนุน หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที นายธนทร ศรีนาค ปภ.อุดรธานี ได้นำทีมนั่งเฮลิคอปเตอร์บินมาถึง เจ้าหน้าที่ได้โรยตัวลงมารับตัวนายแทนฯ ขึ้นมาจากเรือได้อย่างปลอดภัย
โดยนายแทนเล่าผ่านโทรศัพท์ขณะติดอยู่บนเรือว่า ตนออกเรือมาจับปลาตั้งแต่ช่วงสายวันที่ 25 สิงหาคม จากนั้นช่วงเย็นขณะกำลังจะกลับเข้าฝั่ง ได้เกิดลมพายุขึ้น ลมได้พัดตัวเรือเข้าไปติดกับกองสนม และวัชพืชได้พัดลอยมาอัดตัวเรือติดอยู่แบบนั้น จนเรือไม่สามารถเข้าไปไหนได้ ต้องติดอยู่แบบนั้น ตอนแรกก็ได้แต่รอ เพื่อให้ลมเปลี่ยนทิศ ให้วัชพืชกระจายตัวออก แต่ก็ยังไม่มีวี่แวว ระหว่างนั้นน้ำดื่มที่เตรียมมาก็หมด ต้องอาศัยน้ำฝนดื่ม และก่อไฟบนสนมปิ้งปลาที่หามาได้กินเพื่อประทังชีวิต ติดอยู่แบบนี้ 2 วัน 2 คืน
ต่อจากนั้นรถกู้ชีพได้นำตัวนายแทนฯ มาถึง รพ.ศูนย์อุดรธานี จากอาการภายนอกยังดูสดใส ไม่มีอาการอิดโรย ยังให้การได้ตามปกติ ระหว่างทางก็ได้โทรศัพท์พูดคุยกับญาติ และเล่นโทรศัพท์มือถือได้อย่างปกติ ก่อนบอกผู้สื่อข่าวว่า “ออกไปหาปลา และเกิดพายุฝน ติดอยู่แบบนั้นนาน 2 วัน ต้องเผาปลาที่จับมาได้กิน ฝนตกหนักเกือบตลอด บางครั้งก็มีฟ้าผ่าอยู่ใกล้ๆ จนกระเด็นตกเรือ”