เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 ส.ค.2567 ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จ.ขอนแก่น ชั้น 4 ศาลากลาง จ.ขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผวจ ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น , นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์ สสจ.ขอนแก่น และผู้แทน ป.ป.ส. ภาค 4 ร่วมกันแถลงข่าวผลการดำเนินงานตามแผนปฎิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน 1 มิ.ย.- 31 ส.ค 2567 ครั้งที่ 14 สัปดาห์สุดท้ายในระยะเร่งด่วน โดยทำการปิดล้อมตรวจค้น พื้นที่เป้าหมายสะสม 1,845 จุด รวบผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้ค้า 1,396 คนผู้เสพ 1,591 คน พร้อมของกลางยาบ้า 333,829 เม็ด อาวุธปืน 115 กระบอก เครื่องกระสุน 363 นัด และทำการยึดทรัพย์รวม 41,635,464 บาท ขณะที่การตรวจหาสารเสพติดเจ้าหน้าที่และบุคลากรภาครัฐ 10,731ราย พบสารเสพติด 13 ราย โดยได้ดำเนินการให้ออก ดำเนินการทางวินัยและนำเข้ารับการบำบัดรักษา ขณะที่การตรวจสารเสพติดพระภิกษุสงฆ์ 1,606 รูป พบสารเสพติด 57 รูป โดยให้ลาสิกขาและนำเข้าบำบัด
นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า การปฏิบัติการเร่งรัดการป้องกันปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วน 3 เดือน ได้ดำเนินการปราบปรามนักค้ายาเสพติดและเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ ปฏิบัติการเชิงลึก ปิดล้อมตรวจคัน จับกุม บุคคลตามหมายจับและดำเนินการยึด อายัดทรัพย์สินนักค้ายาเสพติด ทุกรายให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและชุมชนต่างๆ ต้องช่วยกันเน้นหนักไปเรื่องการจัดเวรยามหมู่บ้าน เรื่องครัวเรือนสีขาวและจะขยายต่อเป็นหมู่บ้านสีขาว ระบบการบำบัดรักษา
“ขอนแก่น เราเปิดปฏิบัติการมาตั้งแต่ปี 2566 ทั้งปี ต่อเนื่องมาจนขณะนี้โดยเราได้จับมือร่วมกับตำรวจ และทันทีที่รัฐบาลได้ให้การบ้านเป็นจังหวัดนำร่อง 1 ใน 25 จังหวัด เราได้ทำมาต่อเนื่องครบ 3 เดือน ผลคือเราได้คะแนนเป็นอันดับดับที่ 4 ของประเทศ และเป็นอันดับ 1 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งแนวทางในการแก้ปัญหาต้องเริ่มด้วยการยอมรับความจริง ช่วยกันแก้ปัญหา การมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน และทุกภาคส่วนร่วมกันต้องใช้ความอดทนระยะเวลาพอสมควรในการจัดการปัญหายาเสพติด”
ขณะที่ พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การดำเนินการปราบปราม จู่โจม ตรวจค้น ตามนโยบายของรัฐบาล 3 เดือนเร่งด่วน ซึ่งจังหวัดและตำรวจภูธรจังหวัดมีนโยบายมียุทธการในเรื่องการเด็กปีกนักค้าในการตัดโครงสร้างของยาบ้า ด้วยการปิดล้อมตรวจค้นทุกสัปดาห์ในพื้นที่เป้าหมาย ขณะที่ตำรวจได้มีการปฏิบัติการทุกวันและสามารถปรับลดยาเสพติดลงได้ทุกวัน และก็จับได้ทุกวัน ซึ่งในครั้งนี้เป็นครังที่ 14 ในการปฏิบัติการเปิดปฎิบัติการทำพร้อมกันทุกอำเภอ ทั้งจังหวัด 92 จุด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 199 ราย แบ่งเป็นผู้เสพ 131 ราย, ผู้ค้า 68 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 4,165 เม็ด ยาไอซ์ 0.6 กรัม อาวุธปืน 7 กระบอก กระสุนปืน 2 นัด พร้อมยึดทรัพย์ รวมมูลค่าประมาณ 100,100 บาท อย่างไรก็ตามจังหวัด ได้รับความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสผู้ค้าและผู้เสพ รวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด มาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะสายด่วนซอมบี้ขยี้ยาเสพติด ซึ่งรับแจ้งเบาะแสแล้ว 324 เรื่อง ดำเนินการแล้ว 316 เรื่อง อยู่ระหว่างการตรวจสอบและดำเนินการ 8 เรื่อง ขณะที่การฟื้นฟูสังคมมีการนำผู้เสพที่อยู่ในขั้นตอนของการช่วยเหลือที่ยังไม่พร้อมกลับสู่ชุมชนในรูปแบบของศูนย์พักคอยผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติดหรือ CI จำนวน 1,738 คน โดยแต่ละอำเภอมีการประเมินผู้ที่เข้ารับการบำบัดอย่างต่อเนื่อง