เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 13 กันยายน พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุดรธานี ว่ามีผู้ต้องหาชื่อนายอุเทียน พลแสน หรือต๋อง อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี กระทำความผิดฐาน “กระทำชำเราแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปีและกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย” จับกุมตัวเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 พ.ต.ต.สนธนา หิติยะโส สว.(สอบสวน) สภ.เพ็ญ ควบคุมตัวมาเก็บดีเอ็นเอ หลังเก็บเสร็จแล้ว ผู้ต้องหาได้เข้าห้องน้ำ และได้ล็อคประตูห้องน้ำ ก่อนปีนหลบหนีทางช่องลมด้านหลังหลบหนีไป หลังจากได้รับแจ้งจึงสั่งการให้ ร.ต.อ.วิทยา ศิริเทพ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังสายตรวจออกไปติดตาม
ต่อมา พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่านายอุเทียนจะหลบหนี ก็พบว่าเวลา 12.29 น. นายอุเทียน ผู้ต้องหาใส่เสื้อยืดสีดำแขนยาวสีแดง นุ่งกางเกงขายาว ไม่สวมรองเท้า แต่นำมือที่ถูกสวมกุญแจยัดเข้าไปในเสื้อที่สวมใส่ เดินออกมาจากสำนักงานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน มาทางถนนนเรศวรเลี้ยวขวาไปทางเรือนจำกลางอุดรธานี ถนนศรีชมชื่นถึงสำนักงานไฟฟ้า เลี้ยวซ้ายไปซอยสุรทักษ์เดินไปเรื่อยๆ จึงนำกำลังออกติดตามจนพบนายอุเทียนยืนอยู่หน้าร้านสนติพรจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องครัว ถนนเลี่ยงเมือง ใกล้กับห้างบุญถาวร ต.บ้านเลื่อม พอเห็นตำรวจก็ได้วิ่งหลบหนี ตำรวจได้ไล่ติดตามและจับกุมนายอุเทียนได้ขณะหลบอยู่ในพุ่มไม้ ในซอยไทยน้ำทิพย์ 1 หลังห้างบุญถาวร โดยนายอุเทียนอ้างว่าคิดถึงบ้านจึงหลบหนี
ร.ต.อ.หญิง วิภารัตน์ กากแก้ว รอง สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้จับกุมนายอุเทียน พลแสน หรือต๋อง อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี กระทำความผิดฐาน “กระทำชำเราแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปีและกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย” ได้ที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ควบคุมตัวนำส่ง พ.ต.ต.สนธนา หิติยะโส สว.(สอบสวน) สภ.เพ็ญ เพื่อดำเนินคดี และวันนี้ได้หลบหนีการควบคุมตัว อ้างว่าโดนใส่ร้ายจึงหลบหนี และคิดถึงบ้าน หากคิดว่าโดนใส่ร้าย ต้องต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมาย ไม่ใช่หลบหนีการจับกุม
ร.ต.อ.สุปะชัย กิตติประจักษ์โชติ รอง สว.ป.สภ.เพ็ญ เปิดเผยว่าวันนี้พนักงานสอบสวน นำตัวนายอุเทียน ผู้ต้องหากระทำชำเรา มาเก็บดีเอ็นเอเพิ่มเติมที่พิสูจน์หลักฐาน โดยพนักงานสอบสวนได้สวมกุญแจมือนายอุเทียนเข้าไป ส่วนตนทำผู้ต้องหาคนอื่นไปส่งฟ้องศาล ไม่นานพนักงานสอบสวนก็โทรหาตน ตนมารอก็ยังไม่เสร็จ จึงเดินเข้าไปดูก็พบว่าผู้ต้องหาหลบหนี จึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชา และติดตามจนจับกุมตัวได้ และแจ้งข้อหา “หลบหนีระหว่างควบคุมตัวของเจ้าพนักงาน” ควบคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป