ตำรวจกาฬสินธุ์ตั้ง 3 ทีมสืบสวนลงพื้นที่เร่งปูพรมหาเบาะแสคดีหญิงสาวถูกฆ่าโหดทุบหน้ามัดมือไพล่ ทิ้งศพอำพรางหมกพงหญ้า แต่ยังไร้วี่แววญาติมาแสดงตัว เตรียมขยายพื้นที่ค้นหาจังหวัดใกล้เคียง
จากกรณีเจ้าหน้าที่พบศพหญิงสาวอายุประมาณ 30-40 ปี ถูกฆ่าโหดมัดมือไพล่หลังห่อศพทิ้งหมกพงหญ้าข้างถนนสายนาไคร้-มุกดาหาร บริเวณบ้านขุมขี้ยาง ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.อ.บัณฑิต สิงหประชา ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ พร้อมชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าถูกฆ่าเสียชีวิตมาจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งอำพรางคดี
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 4 สิงหาคม 2564 พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิทยา เย็นจิตร รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามคดี โดยมี พ.ต.อ.บัณฑิต สิงหประชา ผกก.สภ.กุฉินารายณ์รายงานความคืบหน้า
โดยวันนี้ ในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้มีการแบ่งกำลังชุดสืบสวนจาก สภ.กุฉินารายณ์ ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ออกเป็น 3 ทีม ลงพื้นที่สืบหาเบาะแส โดยเฉพาะการเร่งตรวจสอบชื่อและตัวตนของหญิงสาวที่เสียชีวิต ทั้งการไล่เช็คกล้องวงจรปิด ตรวจสอบยานพาหนะต้องสงสัยตามจุดต่างๆย้อนหลัง 10 วัน ตรวจสอบบุคคลแปลกหน้าที่เข้าห้องพักตามรีสอร์ท โรงแรม และร้านอาหาร รวมทั้งตรวจสอบแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ พร้อมประสานผู้นำชุมชนในพื้นที่และโรงพักใกล้เคียง ว่ามีคนหายหรือไม่ และลงพื้นที่หาข่าวพยานแวดล้อมบริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ แต่ก็ยังไม่พบเบาะแสของผู้เสียชีวิต และยังไม่มีญาติมาแสดงตัวตน
กระทั่งล่าสุด ช่วงบ่ายมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบเบาะแสว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งมีลักษณะคล้ายกับผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และเคยมาทำงานร้านอาหารในตัว อ.กุฉินารายณ์ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบแต่พบว่าเป็นคนละคนกันกับผู้เสียชีวิต และหญิงรายดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่เตรียมวางแผนขยายวงพื้นที่ในการค้นหาเบาะแสให้กว้างมากขึ้น โดยได้ประสานไปยังโรงพักและหมู่บ้านต่างๆในจังหวัดใกล้เคียงทั้ง จ.มุกดาหาร และ จ.ร้อยเอ็ด
พ.ต.อ.วิทยา เย็นจิตร รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ความคืบหน้าล่าสุดยังไม่พบเบาะแสว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครมาจากไหน แต่ได้ตั้งทีมชุดสืบสวน 3 ทีม ออกสืบหาข่าวและคนหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงาน เพราะศพผู้เสียชีวิตไม่มีเอกสารติดตัว และสภาพศพเสียชีวิตมาแล้วหลายวันจะต้องเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ และหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ อีกทั้งยังไม่มีใครแสดงตัวว่าเป็นญาติ ไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากจุดพบศพอยู่ห่างชุมชนกว่า 1 กม.จึงทำให้การทำงานค่อนข้างลำบาก แต่เจ้าหน้าที่ได้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องขยายวงในการค้นหาเบาะแสจากในพื้นที่ไปยังพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงด้วย ซึ่งขอประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนหากมีญาติเป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 30-40 ปี สูญหายให้ติดต่อมาที่ สภ.กุฉินารายณ์ทันที
ด้านนายภิรมย์ อุทรักษ์ นายก อบต.นาไคร้ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้รับทราบข่าวพบศพผู้เสียชีวิต ซึ่งได้ประสานกับผู้นำชุมชนใน ต.นาไคร้ และตำบลใกล้เคียงแล้ว ยังไม่พบชาวบ้านคนใดสูญหาย และยังไม่พบบุคคลแปลกหน้า ทั้งนี้ เนื่องจากบ้านพักของตน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 1 กม. ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด และมีกล้องตัวหนึ่ง หันไปทางถนนสายนาไคร้-มุกดาหาร จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทำการตรวจสอบภาพที่บันทึกไว้ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป