เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีประชาชนจากในเขตอำเภอเมือง และอำเภอใกล้เคียง นำสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทยและเอกสารยืนยันตัวตน เดินทางมาที่ธนาคารจำนวนมาก เพื่อขอให้ทางธนาคารกรุงไทยช่วยดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์ เข้ากับบัญชีธนาคาร เพื่อเตรียมรอรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่รัฐบาลได้มีการประกาศเตรียมจ่ายเงินงวดแรกให้กับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มผู้พิการ เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนนี้เป็นต้นไป
ส่งผลให้บรรยากาศที่ธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น มีผู้มาใช้บริการกันจำนวนมาก โดยพบว่า ผู้ที่มาใช้บริการส่วนใหญ่ในวันนี้เป็นกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้ที่มาดำเนินการแทนกลุ่มผู้พิการ ได้นำสมุดบัญชีธนาคารและบัตรประชาชนมาให้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารนั้นดำเนินการผูกพร้อมเพย์ให้
จากการสอบถามผู้มารอรับบริการ พบว่า มีทั้งผู้ที่มั่นใจว่าตนเองยังไม่ได้ผูกบริการพร้อมเพย์ จึงรีบนำหลักฐานมาติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร และอีกส่วนหนึ่งพบว่า ไม่มั่นใจว่าตนเองได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้แล้วหรือไม่ เนื่องจากเกิดการหลงลืม จึงเดินทางมาติดต่อที่ธนาคาร ขณะเดียวก็มีหลายคนที่เมื่อมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้แล้ว กลับพบว่า บัญชีธนาคารถูกระงับ เนื่องจากไม่มีการใช้งานมานานหลายปี ทำให้ต้องเสียเวลาในการเปิดบัญชีใหม่ก่อนที่จะดำเนินการผูกพร้อมเพย์
นางสุภารัตน์ บุญอินทร์ อายุ 56 ปี ชาว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ตนเองได้นำสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทยและบัตรประจำตัวประชาชนมาติดต่อที่ธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่ช่วงเช้า เมื่อมาถึงก็พบว่า มีชาวบ้านมารอจำนวนมาก ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจเช็คให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่า บัญชีธนาคารของตนเองได้ถูกระงับการใช้งานไปตั้งแต่ปี2565 เนื่องจากบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหว ทำให้ตนเองต้องทำการเปิดบัญชีธนาคารใหม่
โดยมีคนมาใช้บริการจำนวนมาก จึงต้องออกมานั่งรอคิวที่ระเบียงด้านนอก แม้จะนานแต่ก็รอได้ เพราะต้องการทำตามขั้นตอนให้เรียบร้อย เพื่อให้การรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ไม่เกิดปัญหาติดขัด โดยขั้นตอนในการที่จะได้รับเงินนั้น ตนเองก็มีความเข้าใจเป็นอย่างดี และหวังว่าจะได้เงิน 10,000 บาทที่รัฐบาลจะโอนเข้าให้ในครั้งนี้ ไว้ใช้จ่ายใช้ยังชีพในครัวเรือน