กรณี น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน Kick off โอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และบัตรคนพิการ ซึ่งกระทรวงการคลังได้เริ่มจ่ายเงิน 10000 บาท ให้กับกลุ่มเปาะบาง 14.5 ล้านคน วันนี้เป็นวันแรก หวังต่อลมหายใจให้ประชาชน รายเล็กที่กำลังเดือดร้อน ยันรัฐบาลเดินหน้าโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” แน่นอน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 25 กันยายน 2567 ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขาอุดรธานี ถนนอุดรดุษฎี เขตเทศบาลนครอุดรธานี มีประชาชนกลุ่มเปราะบาง ได้ทยอยนำสมุดบัญชีเงินฝากมาปรับบัญชีเพื่อดูว่า เงินโครงการ Digital wallet ของรัฐบาลได้โอนเข้ามาหรือยัง โดยมี รปภ.ให้ความช่วยเหลือในการปรับบัญชีที่ตู้เอทีเอ็ม ผู้ที่มีเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีแล้ว ส่วนใหญ่จะนำบัญชีเข้าไปถอนเงินสดในธนาคาร
นายสุมิตร ชูชีวัน อายุ 62 ปี ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กล่าวว่า วันนี้นำบัญชีมาปรับดู พบว่ารัฐบาลโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว 1 หมื่นบาท ดีใจมากที่รัฐบาลได้มอบเงินให้ ตนจะถอนเงินไปซื้อวัสดุทำรั้วหน้าบ้าน เพื่อป้องกันโจรจะเข้ามาขโมยทรัพย์สิน อยากขอบคุณรัฐบาลที่มอบเงินหมื่นให้
นางพัน เรืองใสส่อง อายุ 77 ปี ชาวอำเภอเมืองอุดรธานี กล่าวว่า ตนมีสามีเป็นคนพิการเดินไม่ได้ วันนี้ได้มาปรับบัญชีพบเงินเข้าบัญชีแล้ว 1 หมื่นบาท ดีใจมากขอบคุณรัฐบาลมากๆ ตนจะนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้ แต่สามีเป็นคนพิการ อยู่ในกลุ่มเปราะบาง
นายคำผาง เหล่าราช อายุ 73 ปี ชาวอำเภอเมืองอุดรธานี ผู้พิการหลังค่อม กล่าวว่า วันนี้มาทั้งฝากเงินและถอนเงิน และมาดูเงิน 1 หมื่น พบว่ารัฐบาลโอนเข้าบัญชีแล้ว ตนจะนำเงิน 5 พันบาทไปซื้ออะไหล่ไปซ่อมรถสามล้อเครื่อง เงินที่เหลือจะนำไปซื้อข้าวปลาอาหารไว้กิน ตนรู้สึกดีใจที่รัฐบาลช่วยคนยากจน ซึ่งเงิน 1 หมื่นบาทที่นำมาแจก ถือว่าเป็นเงินภาษีของประชาชน เพราะรัฐบาล มีรายได้จากภาษีหลายอย่าง
นายนรินทร์ศักดิ์ มีเมศกุล อายุ 64 ปี ชาวอำเภอเมืองอุดรธานี พิการแขนขวาจากอุบัติเหตุ กล่าวว่า นำบัญชีมาปรับ พบว่าเงิน 1 หมื่นบาทเข้าบัญชีแล้ว ดีใจที่รัฐบาลช่วยเหลือ จะนำเงินไปซื้อของใช้อุปโภคและบริโภค จะไปซื้อเสื้อผ้าใส่ และใช้จ่ายในครอบครัว ตนจะเบิกเงิน 1 หมื่นบาทไปใช้ คิดว่าจะใช้จ่ายได้ประมาณ 1 เดือน