ป้าวัย 64 ชาวบุรีรัมย์ถึงกับปล่อยโฮร้องไห้หน้าตู้ ATM ดีใจได้เงินหมื่น เผยสุดลำบากต้องดูแลพี่สาวน้องชายพิการ 3 ชีวิต และหลานที่กำลังเรียนอีก 3 คนด้วยเบี้ยคนชรา ผู้พิการ บัตรคนจนเดือนละ 300 และเงินที่ลูกส่งมาให้บ้างแต่ไม่เพียงพอใช้จ่าย หลังได้เงินรีบนำไปซื้อข้าวสาร ไข่ไก่ ไว้กินในครัวเรือนและแบ่งประกอบอาหารขายหวังเก็บกำไรไว้ต่อยอดใช้จ่าย ขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยต่อลมหายใจคนยากจน
(25 ก.ย.67) บรรยากาศที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาบุรีรัมย์ ยังคงมีประชาชนกลุ่มเปราะบาง ทั้งผู้พิการ และผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประจำตัวประชาชนลงท้ายด้วยเลข 0 นำบัตร ATM และสมุดบัญชีเงินฝากทั้งตรวจเช็คและถอนเงินในโครงการดิจิทัล 10,000 บาท อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ก็มีทั้งคนที่ดีใจได้รับเงินโอนเข้าบัญชีแล้ว และคนที่ผิดหวังยังไม่มีเงินโอนเข้าบัญชี
โดยเฉพาะ น.ส.น้อย แย้มประโคน อายุ 64 ปี หนึ่งในกลุ่มเปราะบางที่มีเงินโอนเข้าบัญชีแล้ว ก็นำบัตร ATM มาให้เจ้าหน้าที่ช่วยกดถอนเงินให้ ทันทีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ประจำธนาคารฯ ช่วยอำนวยความสะดวกกดถอนเงินจากตู้ ATM ให้ เมื่อคุณป้าน้อย ได้รับเงินสดจำนวน 10,000 บาท ถึงกับปล่อยโฮร้องไห้ด้วยความดีใจอยู่ที่หน้าตู้ ATM ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มาตรวจเช็คและถอนเงิน
จากการสอบถามป้าน้อย ก็พูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นด้วยความดีใจว่า ที่ร้องไห้เพราะดีใจมาก เพราะ 10 กว่าปีแล้วที่ไม่เคยได้จับเงินก้อนถึง 10,000 บาทแบบนี้ ที่ผ่านมามีอาชีพค้าขายแต่พออายุมากขึ้นสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ประกอบกับไม่มีต้นทุนหมุนเวียนซื้อของจึงหยุดขาย แต่กลับมีภาระทั้งดูแลพี่สาวและน้องชาย พิการทางสมอง 3 คน และหลานที่อยู่ในวันเรียนอีก 3 คน จากเงินเบี้ยคนชราของตนเอง รวมถึงเบี้ยผู้พิการของพี่สาวน้องชาย รวมถึงเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนละ 300 บาท และเงินที่ลูกส่งมาให้บ้างแต่ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในบ้าน ส่วนลูกชายคนเล็กที่ทำไก่ทอดขายก็ประสบอุบัติเหตุขาหักอีก ก็ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากบ้านก็เริ่มชำรุดผุพังและหลังคารั่ว พอได้เงินดิจิทัล 10,000 บาทจากรัฐบาลก็เหมือนมาช่วยต่อลมหายใจ ก็รีบนำเงินที่ได้ไปซื้อข้าวสาร และไข่ไก่ตุนเอาไว้ ทั้งบริโภคในครัวเรือน บางส่วนก็ประกอบอาหารขายเป็นการต่อยอด จะได้มีกำไรเก็บไว้หมุนเวียนใช้จ่ายในครอบครัว ก็ขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยเหลือคนยากจน คนพิการ อยากให้มีโครงการช่วยเหลือแบบนี้อีก
ด้วยสภาพความครอบครัวที่ยากจน และแบกรับภาระดูแลคนพิการหลายคน หากเป็นไปได้ก็อยากได้รถเข็นไว้สำหรับขายของเพิ่มเติม เพื่อจะได้มีรายได้หมุนเวียนกินอยู่และใช้จ่ายในครอบครัวด้วย