ลุงชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ดีใจได้เงินหมื่นแวะก๊งเหล้าขาวเมาแอ๋จำอะไรไม่ได้ ตื่นมาอีกทีหาเงินที่เหลือไม่เจอ โร่แจ้ง ตร.โพสต์ช่วยประชาสัมพันธ์ใครพบเห็นให้นำส่งคืน แต่พอลงพื้นที่ไปสอบถามถึงรู้ความจริง ที่แท้น้องสาวซึ่งเป็นคนดูแลทั้งเบี้ยคนชรา เงินบัตรคนจนเก็บไว้ให้ เพราะเป็นห่วงเห็นพี่ชายเมาหลับไม่รู้เรื่องกลัวจะหายเพราะดื่มเหล้าทุกวัน กลัวเงินจะไม่เหลือซื้อข้าวกิน
จากกรณีที่สถานีตำรวจภูธรเฉลิมพระเกียติ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้โพสต์ประชาสัมพันธ์ว่า “ขอประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 27 กันยายน นาย ออง มาแจ้งว่าได้ทำกระเป่าตังตกหายระหว่างเดินทางไปชื้อขาวสาร อยู่ถนนเส้นทางบ้านหนองโสน หมู่ 4 ไปโรงสีตะโก ในกระเป๋ามีเงินอยู่ประมาณ 7,000 บาทพร้อมบัตรประชาชนเพราะแกยากจนมาก จะไปชื้อขาวสาร ท่านใดเก็บได้ขอความอนุเคราะห์ส่งคืนด้วยครับ สงสารคนไม่มีจะกินรัฐบาลให้มายังไม่ได้ใช้เลยครับ หมู่ 4 อีสานเขตครับ”
จากนั้นทีมข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่ 4 บ้านหนองโสน ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อจะไปสอบถามข้อมูลกับคุณลุงที่ทำกระเป๋าตังหล่นหาย ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็พาไปที่บ้านของนายละออง หรือลุงออง อายุ 62 ปี ซึ่งสภาพบ้านลักษณะคล้ายกระต๊อบทั้งหลังคาและฝาพนังเป็นสังกะสีเก่าผุพัง ในบ้านไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีเพียงที่นอนหมอนมุ้ง แหที่ใช้สำหรับหาปลา และอุปกรณ์ถ้วยจานชาน หม้อกระทะ เตาถ่าน ที่ใช้สำหรับประกอบอาหารเท่านั้น แต่ไม่พบลุงออง อยู่ในบ้าน สอบถามญาติพี่น้องใกล้เคียงก็บอกว่าน่าจะไปหาดื่มเหล้า เพราะลุงแกชอบดื่ม
ซึ่งญาติก็ถามนักข่าว และผู้ใหญ่บ้านว่าตามหาคุณลุงทำไม พอบอกว่าคุณลุงไปแจ้งความว่าเงินที่รัฐบาลที่โอนช่วยเหลือมา 10,000 บาทหายไป 7,000 บาทระหว่างจะไปซื้อข้าวสาร น.ส.สุดารัตน์ อายุ 60 ปี น้องสาวของลุงออง ก็บอกว่าเงินไม่ได้หายเธอเป็นคนเก็บกระเป๋าเงินไว้เอง พร้อมเอาเงินในกระเป๋าของลุงออง พี่ชายที่เธอช่วยเก็บไว้ให้มานับให้ทีมข่าวและผู้ใหญ่บ้านดู พบว่าเงินเหลือจำนวน 5,780 บาท พร้อมกับเล่าให้ฟังว่าวันที่ 26 ก.ย.67 พี่ชายไปเบิกเงินดิจิทัลที่รัฐโอนเข้าบัญชีมา 10,000 บาท ตนก็บอกพี่ชายว่าขอไว้ 3,000 บาทได้มั้ย เพราะรู้ว่าพี่ชายเป็นคนชอบดื่มเหล้ากลัวเงินจะหมด ปกติก่อนหน้านี้ทั้งเบี้ยคนชราเดือนละ 600 บาท และเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนละ 300 บาทตนก็เป็นคนดูแลให้ทั้งหมด เวลาไม่มีข้าวหรืออาหารก็จะเอาเงินไปซื้อให้ บางคนพี่ชายก็มาเอาเงินสดไปซื้อเอง เพราะปัจจุบันพี่อยู่คนเดียว ลูกๆ เขาไปทำงานหากินและมีครอบครัวกันหมดก็ไม่ได้มาดูแลแก พอวันที่ 27 ก.ย.เห็นพี่ชายเมานอนไม่รู้เรื่องแล้วกระเป๋าที่ใส่เงินก็หล่นจากกระเป๋ากางเกง ตนจึงไปเก็บเอาไว้ให้เห็นเหลือเงินอยู่ 5 พันกว่าบาท ซึ่งหากตนไม่เก็บไว้ให้ก็คงจะหมดเพราะพี่ชายชอบดื่มเหล้า แทนที่จะเก็บไว้ซื้อของกินประทังชีวิตมากกว่า
จากนั้นทีมข่าวจึงได้ไปหาตามร้านค้า ก็พบลุงออง อยู่ที่ร้านค้าห่างจากหมู่บ้านไม่ไกล ก็พบลุงอองกำลังดื่มเหล้าอยู่ จึงสอบถามลุงออง ก็เล่าให้ทีมข่าวฟังด้วยอาการที่ยังมึนเมาว่า หลังจากเบิกเงิน 10,000 บาทมา ก็ให้น้องสาวไป 3,000 บาท เก็บไว้ในกระเป๋า 7,000 บาทก็เอาไปซ่อมจักรยาน และตั้งใจจะไปซื้อข้าวสารเก็บไว้แต่เงินหายก่อน จึงไปแจ้งตำรวจ แจ้ง ผู้ใหญ่บ้านและแจ้ง อบต.ด้วย เพราะไม่รู้เงินหายไปไหน แต่พอนักข่าวบอกว่าเงินไม่ได้หายนะน้องสาวช่วยเก็บไว้ให้เหลืออยู่ 5 พันกว่าบาท ลุงก็ดีใจ
จากนั้นลุงก็ปั่นจักรยานกลับบ้าน น้องสาวก็เล่าให้ฟังว่าเห็นพี่นอนเมาไม่รู้เรื่องจึงช่วยเก็บกระเป๋าเงินไว้ให้ เพราะกลัวจะหาย พร้อมกับส่งกระเป๋าเงินให้ พี่ชาย แต่ลุงออง ก็บอกให้น้องเก็บไว้ แต่ขอ 100 บาทจะไปซื้อของกิน