เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 10 ต.ค. 2567 ที่บ้านพักส่วนตัว ในเขต อ.เมืองขอนแก่น นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังจากมีการปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาในคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ตามที่ศาลได้นัดพิพากษาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ศาลมีคำสั่งเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 18 ธ.ค.2567
นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้เปลี่ยนทีมกฎหมายและคณะทำงานด้านกฎหมายใหม่ทั้งหมด เนื่องจากคดีดังกล่าวเดิมที่ให้การรับสารภาพ เพราะทีมกฎหมายแนะนำให้รับเพราะจะได้จบเรื่อง และชำระหนี้ แต่ด้วยการเป็น ส.ส.เมื่อมีคดีเกิดขึ้นก็จะมีเรื่องการสอบสวน ต่างๆตามมา ทั้ง ปปช.และ ปปง. ซึ่งในวันที่ทีมทนายชุดเดิมให้การรับสารภาพ ตนเองยังประชุมสภาฯอยู่ จึงต้องดำเนินการอย่างนี้เรื่อยมาตามขั้นตอนของศาล ซึ่งประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ตนเองดำรงตำแหน่งผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครู และเมื่อเกิดคดี ก็ไม่ได้หนีไปไหน ทยอยจ่ายเงินมาตลอด เพราะเราทำเพื่อองค์กร มากกว่ามองว่าตนเองจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง โดยในทางคดีนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะมอบหมายให้ทีมทนายชุดใหม่ทำตามขั้นตองของศาลทั้งหมด
“วันนี้ได้ออกมาพูดกับสื่อมวลชนเพื่อต้องการที่จะให้ทุกคนได้ทราบความจริง ผมไม่ได้หนีไปไหน พยายามที่จะชำระหนี้ ตามที่ศาลสั่ง อย่ามาดึงกระแสการเมือง หรือเอาเรื่องนี้มาโยงกับการเมือง โดยเฉพาะกับการเลือกตั้ง นายก อบจ.ขอนแก่น ที่กำลังจะมาถึง ผมน้อมรับทุกคำตัดสินของศาลและหวังว่าศาลท่านจะเมตตาและรับฟังในสิ่งที่ผมทำ ซึ่งคดีที่ ปปง. ท่านอัยการได้สั่งยกฟ้องในคดีอาญาแล้ว เหลือเพียงคดีแพ่ง ที่ ได้ยึดที่ดินจำนวน 6 ไร่กว่า ที่บริเวณศาลหลักเมืองขอนแก่น ซึ่งผมยินยอมและต้องการให้ขายทอดตลาดซึ่งราคาประเมินกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งหากขายได้ก็จะสามารถนำเงินมาจ่ายเงินให้กับสหกรณ์ได้ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นด้วยเจตนา คือต้องการรักษาสถานภาพขององค์กร ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบจากคำสั่งของกรมส่งเสริมสหกรณ์ในเรื่องการซื่อขายสลากฯของสหกรณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในปี2553-2554” นายเอกราช กล่าว.