(15 ต.ค.67) บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 56 หมู่ที่ 8 ต.กันทรารมย์ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายนิสันต์ มีรัมย์ อายุ 42 ปี แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ทางตอนเหนือของอิสราเอล เสียชีวิตจากการระเบิดของกระสุน (ammunition) ซึ่งตกค้างอยู่บริเวณที่ทำงานในไร่แอปเปิล เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 12 ต.ค.67 ที่ผ่านมา ทางครอบครัวก็มีการจัดเตรียมสถานที่ทั้งเต็นท์ โต๊ะ เก้าอี้ เพื่อเฝ้ารอร่างไร้วิญญาณของนายนิสันต์ กลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดเหตุด้วยความโศกเศร้า ขณะที่ญาติพี่น้อง และคนที่ทราบข่าวต่างก็เดินทางมาแสดงความเสียใจและให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสียอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งล่าสุดทราบจากนายจ้างที่อิสราเอลว่ามีการเคลื่อนร่างของนายนิสันต์ ออกจาก รพ.แล้ว แต่ยังต้องรอผลการชันสูตรหรือพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินเรื่องการส่งร่างกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทางนายจ้างที่อิสราเอล ก็ได้มีการพาเพื่อนแรงงานไทย ไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของนายนิสันต์ ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ตามประเพณีความเชื่อของชาวอีสาน โดยมีการวีดีโอคอลขณะทำพิธีกับทางญาติและครอบครัวด้วย
โดยนางพฤกษา มีรัมย์ อายุ 43 ปี ภรรยาของนายนิสันต์ บอกว่า ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียสามีซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่ก็รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นหลังจากมีหน่วยงานราชการต่างๆ ไปเยี่ยมให้กำลังใจ รวมถึงทางนายจ้างที่อิสราเอลก็ได้ติดต่อมาหาโดยตรงเพื่อแสดงความเสียใจและรับปากว่าจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ ซึ่งทางนายจ้างเองก็มีการแจ้งข่าวเป็นระยะทั้งเรื่องการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล และการนำร่างของสามีกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาเขาก็พยายามติดต่อประสานให้ แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบวันเวลาชัดเจนว่าจะได้ร่างสามีกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาวันไหน เพราะช่วงนี้ที่อิสราเอลเป็นเทศกาลวันหยุดของเขา จึงอาจต้องใช้เวลาสักระยะซึ่งตนก็เข้าใจ ซึ่งก็ยืนยันว่าสามีไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายและสัญญาจ้าง ก็อยากให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือด้วย เพราะหลังจากสูญเสียสามีที่เป็นเสาหลัก ก็ไม่รู้จะดำเนินชีวิตยังไงเพราะมีภาระหนี้สินกว่าล้านบาท และมีลูกที่ต้องดูแลอีก 2 คน ส่วนแม่ของสามีก็อายุมากเช่นกัน
ขณะที่นายมนตรี ปฏิปักษ์จำนน อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ก็ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย พร้อมทั้งให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย อาทิ เรื่องการจัดการมรดก หรือหนี้สินทั้งในและนอกระบบ ก็สามารถให้คำแนะนำช่วยเหลือไกล่เกลี่ยให้ได้
ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างที่ควรจะได้รับตามสิทธินั้น ต้องรอการพิสูจน์อัตลักษณ์เป็นลักษณ์อักษร และนำร่างกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป