วันที่ 21 ตุลาคม 2567 เพจ”อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ” ได้โพสต์ภาพพร้อมกับระบุข้อความว่า” มีคนร้ายบุกเจาะตู้เชฟวัดแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ กวาดเงินสดในเซฟไปร่วมกว่า 6.5 ล้าน ทางเจ้าอาวาสและกรรมการวัดอ้างว่ากล้องวงจรปิดเสียแถมยังสั่งทุกคนให้ช่วยกันปิดข่าว ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครเพราะไม่ต้องการให้เป็นเรื่องใหญ่โต” ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบและสอบถามทราบว่าเป็นวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลโชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดแห่งหนึ่งที่ ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ โดยบริเวณที่เกิดเหตุเป็นกุฏิหลังเก่าของพระครูอภิรักษ์ธีรคุณ, ดร.(เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง)จำวัดพักผ่อน ภายในกุฏิติดกล้องวงจรปิดทุกมุม(อ้างใช้การไม่ได้) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจสอบเมื่อเช้า 07.30 น.วานนี้(20 ต.ค.2567)ได้ใช้ (โปรรีสไลน์)เทปสีเหลืองล้อมรอบที่มีลายเส้นทแยงมุมสีดำสำหรับเป็นรั้วปิดที่เกิดเหตุห้ามให้ใครเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยบรรยากาศรอบวัดเงียบสงบ พร้อมกันนี้ยังญาติโยมต่างพากันมาถวายภัตตาหารปัจจัยให้กับพระครูอภิรักษ์ธีรคุณ, ดร.(เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง) อายุ 70 ปี 40พรรษา วัดดัวกล่าวของ ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ไปที่กฏิหลังใหม่ได้ติดป้ายว่า “หลวงพ่อไม่อยู่” สอบถามลูกศิษย์ในวัดทราบว่าอยู่ที่ศาลาติดกัน
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พบกับพระครูอภิรักษ์ธีรคุณ, ดร.(เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง) กำลังนั่งพูดคุยกับโยมที่เดินทางมาถวาย สังฆทานปัจจัย หลวงพ่อพยายามหลบกล้องที่ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพช่วงพูดคุยพร้อมกับพูดว่าอย่าถ่ายเลยโยม อาตมาอยากอยู่เงียบ ๆ ไม่อยากเป็นข่าวและหลวงพ่อขอบิณฑบาตไม่ให้ออกข่าว ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อมูลพระครูอภิรักษ์ธีรคุณ, ดร.(เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง) ได้เล่าว่า กุฏิดังกล่าวนี้เป็นกุฏิหลังเก่าที่หลวงพ่อจำวัด ซึ่งพอได้กุฏิหลังใหม่หลวงพ่อก็ย้ายมาจำวัดที่กุฏิหลังใหม่ โดยไม่ได้จำวัดอยู่ตรงนั้นและได้ปิดกุฏิหลังเก่าได้ประมาณ 3 ปีแล้ว โดยเซฟอยู่ภายในห้องนอน หลวงพ่อทราบข่าวจากพระลูกวัดก็รู้สึกเสียใจ ส่วนกล้องวงจรปิดนั้นเสียหลวงพ่อก็เลยถอดปลั๊กออก ในส่วนของเงินที่อยู่ในเซฟนั้นประมาณ 6.5 ล้านบาทได้หายไปจริง ซึ่งคนร้ายได้เข้ามาทางหน้าต่างกุฏิ ซึ่งหลวงพ่อได้แจ้งความไว้แล้วเมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ถามพระครูอภิรักษ์ธีรคุณ, ดร.(เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง) ว่าหลวงพ่อคิดว่าคนร้ายเป็นคนในวัดไหม ซึ่งหลวงพ่อไม่ยอมตอบพูดเรื่องอื่น บอกเพียงแต่ว่า ตำรวจได้เอาลายนิ้วมือแฝงคนในวัดทุกคนส่งไปทางภาค 3แล้ววันนี้
สอบถามพระลูกวัด เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าวันเกิดเหตุอาตมาได้ทำความสะอาดบริเวณในกุฏิเก่า และได้เข้าไปที่กุฏิหลังเกิดเหตุพบว่าตู้เซฟถูกทุบเจาะเสียหาย อาตมาจึงรีบเข้ามาบอกเจ้าอาวาส พร้อมกับโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ ส่วนตัว อาตมาไม่เคยรู้เลยว่าในกุฏิเก่าหลังนี้มีตู้เซฟเก็บทรัพย์สินของมีค่าอยู่
ทางด้าน พ.ต.ท.ถนัดติ นานพ รอง สว.สอบสวน สภ.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้มาตรวจสอบและบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งตู้เซฟดังกล่าวเป็นเหล็กก่อปูนภายในความสูงประมาณ 2 เมตรและมีน้ำหนักมาก ช่วงกลางตู้เซฟพบว่ามีการทุบเจาะทำลายเป็นช่อง ซึ่งได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาดีเอ็นเอเมื่อวานนี้ (20 ต.ค.67) พร้อมกับบอกว่าเซฟที่วัดดังกล่าวเป็นเซฟที่ก่อด้วยปูนและเหล็กไม่แข็งแรงและยังมีน้ำหนักมาก พร้อมกันนี้วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บ DNA ผู้ที่อยู่ในวัดและผู้ใกล้ชิด ส่งตรวจที่ภาค 3 หารอยนิ้วมือแฝงแล้ว เพื่อหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป