เมื่อเวลา 08.35 น.วันที่ 22 ตุลาคม 2567 ขณะที่ ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สวป. สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังสายตรวจ 191 ออกตรวจดูความเรียบร้อยในพื้นที่ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเงินสดติดค้างอยู่ในช่องรับเงิน ที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าร้านสะดวก สาขาบงคำ ถนนมิตรภาพอุดร-หนองคาย ขาออก เขตเทศบาลตำบลหนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบนายอนุชิต สุวรรณไตร หรือปลั๊ก อายุ 25 ปี ชาวตำบลนาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมชี้ให้ดูเงินสดที่ติดคาช่องรับเงินในตู้กดเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการหยิบเงินจากช่องรับเงิน พบเป็นธนบัตร ฉบับละ 1 พันบาท จำนวน 5 ฉบับ เป็นเงิน 5,000 บาท แต่ในใบสลิประบุว่ามีการกดเงิน 10,000 บาท วันที่ 22 ตุลาคม 2567 เวลา 08.09 น. หลังจากนั้นที่หน้าจอตู้เอทีเอ็ม ขึ้นข้อความว่าขออภัยขณะนี้เครื่องปิดบริการชั่วคราว
นายอนุชิตฯ เปิดเผยว่า ตนได้เช่าบ้านอยู่แถวบ้านสามพร้าว ก่อนนี้ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์จะเดินทางไปหาเพื่อนที่เขตเทศบาลเมืองหนองสำโรง ระหว่างทางได้เข้ามาแวะกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม จำนวน 500 บาท เพื่อจะนำเงินไปซื้อของกิน ขณะที่กำลังจะกดเงิน พบว่าเงินสด เป็นแบงค์พันบาทค้างอยู่ในช่องรับเงิน แต่ก่อนที่ตนจะเดินทางมาถึง ก็ไม่เห็นใครมากดเงินก่อนหน้าตน หรือใช้บริการตู้เอทีเอ็ม ตนจึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ ตนมองว่าเงินไม่ใช่ของตน ก็ไม่อยากได้ของคนอื่น ถ้าเอาไปเขาก็จะเดือดร้อน ที่สำคัญทุกวันนี้มีกล้องวงจรปิด ใครทำอะไร ก็มีคนรู้เห็นอยู่แล้ว
ในเบื้องต้นตำรวจได้ทำการรับมอบเงิน 5,000 บาท จากพลเมืองดี แล้วแนะนำให้ไปแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นตำรวจได้โทรแจ้งธนาคารให้ตรวจสอบกล้องวงวงจรปิด และตรวจสอบระบบเพื่อตามหาเจ้าของเงินหรือเจ้าของบัญชี ให้กลับมารับเงินจำนวนดังกล่าวต่อไป