สลดอดีตตำรวจจราจรหนุ่มใหญ่วัย 50 ปี เมาได้ที่ออกไปเดินพร้อมกับนั่งริมทางใกล้รางรถไฟถูกรถไฟชนศีรษะกะโหลกแยกแตกเป็นรูโบ๋ชิ้นสวนสมองกระจายดับ
ที่ศูนย์วิทยุกู้ภัยสุรินทร์ได้รับแจ้งจากนายท่ารถไฟสุรินทร์ว่ามีรถไฟชนคนเสียชีวิตบริเวณเเผงกั้นรถไฟ บ้านหมอกวน-เเสลงพันธ์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานไปยัง พ.ต.ท.สุรัตน์ ศรีวงษา สว.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วยนายเเพทย์อนิคม ใจกล้า เเพทย์เวรโรงพยาบาลสุรินทร์ และอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกันชันสูตรพลิกศพ
เมื่อเวลา 21.13 น. วันที่ 23 ตุลาคม 2567 ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูศพ พร้อมกับพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายนอนเสียชีวิตอยู่ทีาก่อหญ้าใกล้รางรถไฟสวมเสื้อยืดโปโลสีฟ้าขาว สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ทราบชื่อต่อมาชื่อนายกิตติชัย สุจินพรัหม (ผู้เสียชีวิต) อายุ 50 ปี อดีตตำรวจจราจร สภ.เมืองสุรินทร์ ออกจากราชการเพราะดื่มสุราเป็นประจำจึงได้ถูกออกจากราชการ มีบ้านพักอาศัยเลขที่ 121/1 ถ.ศิริรัฐ อ.เมือง จ.สุรินทร์ สภาพศพมีบาดแผลที่ศีรษะด้านหน้าผากแตก กระโหลกฉีกขาดด้านหลังกระโหลกเป็นรูโบ๋ไม่มีสมองอยู่เลย เศษสมองกระจัดกระจาย แขนขวาหักและขาซ้ายหัก เป็นที่น่าสยดสยอง แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสุรินทร์ ต้องช่วยกันเดินหาชิ้นส่วนเพื่อเก็บมารวมกันไว้ ห่างกันประมาณ 2 เมตรพบรถไฟขบวน กซข 1027 อุบลราชธานี-ลำชี หัวรถไฟกำลังมุ่งหน้าเข้าสถานีรถไฟสุรินทร์ ซึ่งห่างกันประมาณ 4-5 กิโลเมตร
จากากรสอบถามคนขับรถไฟทราบว่า รถไฟขบวน กซข 1027 อุบลราชธานี ได้วิ่งจากต้นทางออกจากชานชาลาที่ จ.อุบลราชธานี มุ่งหน้าปลายทางที่สถานีลำชี จ.สุรินทร์ เมื่อเวลา 18.10 น. พอมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุได้สังเกตเห็นผู้ชายนั่งอยู่ริมทางใกล้รางรถไฟจึงเปิดเสียงดังหลายครั้ง แต่ชายคนดังกล่าวนั่งเอียงไปมาไม่ยอมลุก จึงได้กดเบรกแต่ก็ไม่ทำให้รถไฟชะลอความเร็วได้ รถไฟจึงเข้าชนร่างชายคนดังกล่าวได้กระเด็นออกไปเสียชีวิตทันที
ชาวบ้านในระแวกใกล้เคียงและอาสาสมัครกู้ภัยเคยพบเห็นผู้เสียชีวิต และได้บอกว่าเป็นอดีตตำรวจจราจรของ สภ.เมือง ซึ่งผู้เสียชีวิตชอบดื่มสุราเป็นประจำ คาดว่าผู้เสียชีวิตดื่มเหล้าเมาได้ที่ แล้วอาจออกไปเดินพร้อมกับนั่งริมทางใกล้รางรถไฟช่วงที่รถไฟแล่นผ่านมาพอดีจนถูกรถไฟชน กระโหลกแตกเป็นรูโบ๋เละเสียชีวิตดังกล่าว
ทางด้าน พ.ต.ท.สุรัตน์ ศรีวงษา สว.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วยนายเเพทย์อนิคม ใจกล้า เเพทย์ เวรโรงพยาบาลสุรินทร์ ได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพ และได้ให้อาสาสมัครกู้ภัยฯ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ก่อนมอบศพให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป