เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ตำบลคำเหมือดแก้ว อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ ผวาซ้ำ หลังเกิดเหตุการณ์บุคคลไม่หวังดี ลักลอบนำซากสุกรตายหลายตัวมาทิ้งริมถนน ก่อนมีสุกรในพื้นที่ล้มป่วยและตายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ แจ้งปศุสัตว์เก็บตัวอย่างพิสูจน์ และตรวจสุขภาพสุกร หวั่นเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ สร้างความเสียหายในวงการเลี้ยงสุกร
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564 ที่ศูนย์เรียนรู้เกษตรผสมผสาน บ้านป่าหวาย ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ นายสุทิน กาญจนรัช ปศุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายสมพงษ์ พันธ์ดี ปศุสัตว์ อ.ห้วยเม็ก ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างและสำรวจสุขภาพสุกร ของนางสาคร วิทยาเวทย์ เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร โดยมีนายพิบูรณ์ คำแหงพล นายกเทศมนตรีตำบลคำเหมือดแก้ว พร้อมคณะผู้บริหาร และตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ให้ข้อมูล
นายพิบูรณ์ คำแหงพล นายกเทศมนตรีตำบลคำเหมือดแก้ว กล่าวว่า หลังจากเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา มีบุคคลไม่หวังดี นำซากสุกรเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ มาทิ้งริมถนนสายหัวนาคำ-ห้วยเม็ก ในพื้นที่ ต.คำเหมือดแก้ว จำนวน 7 ตัว ซึ่งทางฝ่ายป้องกัน เทศบาลตำบลคำเหมือดแก้ว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อ.ห้วยเม็ก ได้ร่วมกันกำจัดซากสุกร โดยวิธีพ่นยาฆ่าเชื้อและฝังกลบ ตามขั้นตอนของกรมปศุสัตว์แล้ว อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่พบเห็นซากสุกรและทราบข่าว ต่างวิตกกังวล ว่าซากสุกรที่พบ อาจจะเป็นสุกรที่เสียชีวิตจากการเกิดโรคระบาดในสุกร จึงเรียกร้องในทางปศุสัตว์ ทำการตรวจสุขภาพสัตว์ในพื้นที่ พร้อมสวนสวนหาตัวบุคคลผู้ไม่หวังดี มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อให้ชาวบ้านรู้คำตอบและสบายใจ ว่าซากสุกรที่พบเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด จะได้หายสงสัยและเตรียมการรับมือหากเกิดจากโรคระบาด
นายพิบูรณ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่รอคอยคำตอบดังกล่าว พบว่าเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 สุกรของนางสาคร วิทยาเวทย์ เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรบ้านป่าหวาย ซึ่งเป็นแม่ลูกอ่อน ได้ล้มป่วยและเสียชีวิตลงอย่างปัจจุบันทันด่วน ขณะที่สุกรตัวอื่นๆในฟาร์มประมาณ 10 ตัว มีอาการเซื่องซึม เป็นเหตุสงสัยว่าอาจจะเกิดการติดเชื้อ ไม่สบายหรือเกิดโรคระบาดขึ้นได้ ทั้งนี้ ได้แจ้งไปทางปศุสัตว์ อ.ห้วยเม็ก เข้ามาเก็บตัวอย่างไปพิสูจน์ที่ จ.ขอนแก่น และทำลายซากสุกรด้วยการพ่นยาฆ่าเชื้อและฝังกลบ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคแล้ว อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ก็ได้มีการประกาศเตือน ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเฝ้าระวังอาการของสัตว์เลี้ยงของตนเอง เพื่อให้ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ
ด้านนายสุทิน กาญจนรัช ปสุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในกรณีที่มีผู้ไม่หวังดี นำซากสุกรเสียชีวิตมาทิ้งในพื้นที่ ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก ดังกล่าว เบื้องต้นได้มอบหมายให้ปศุสัตว์ อ.ห้วยเม็ก ไปแจ้งความที่ สภ.ห้วยเม็ก และขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกสืบสวนหาข่าว เพื่อติดตามตัวบุคคลรายดังกล่าวมาดำเนินตามคดีทางกฎหมายต่อไป ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าว เข้าข่ายความผิดฐานการเคลื่อนย้ายซากสัตว์โดยไม่ได้รับการอนุญาต และอาจจะเป็นสาเหตุของการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ ล่าสุดจากการประสานกับตำรวจท้องที่ ทราบว่าอยู่ระหว่างการหาเบาะแส ขณะที่ในส่วนของปศุสัตว์เอง ก็ได้ติดตามสอบถามผู้นำชุมชุนทุกหมู่บ้านใน อ.ห้วยเม็กและใกล้เคียงแล้วว่า ในช่วงนี้ไม่มีสุกรของเกษตรกรรายใดเสียชีวิต ดังนั้น จึงสันนิษฐานได้ว่าซากสุกรที่พบจำนวน 7 ตัวดังกล่าว ถูกนำพามาจากนอกพื้นที่
นายสุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของสุกรรายนางสาคร เกษตรกรบ้านป่าหวาย ซึ่งได้นำตัวอย่างส่งพิสูจน์ที่ จ.ขอนแก่นนั้น คาดว่าภายใน 2-3 วันจะทราบผลการพิสูจน์ ว่าเสียชีวิตเนื่องด้วยสาเหตุใด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโรคติดเชื้อหรือโรคที่เกิดจากสุกร เช่น โรคเพิร์ส (PRRS)นั้น ไม่ติดต่อสู่คน ที่สำคัญหากพบสุกรมีอาการป่วย หรือเสียชีวิต ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์มาตรวจสอบ ไม่ควรชำแหละมาเป็นอาหารโดยเด็ดขาด เพราะจะเป็นช่องทางกระจายของเชื้อโรคและเกิดการระบาดได้ สิ่งที่อยากฝากเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรหรือเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด โดยเฉพาะช่วงปลายฤดูฝน ที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ให้เฝ้าระวังสุขภาพสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด โดยรักษาความสะอาดของคอกเลี้ยงสัตว์ ป้องกันความอับชื้นและแหล่งเพาะเชื้อโรค ที่อาจจะเป็นสาเหตุให้ติดเชื้อ หรือล้มป่วยและเสียชีวิตได้ ดังนั้นหากพบสัตว์เลี้ยงมีอาการผิดปกติ ให้รีบแจ้งผู้นำชุมชนหรือปศุสัตว์ทันที