ไม่สนใจเสียงค้านชาวบ้าน สะพัดข่าวลือ พระเล็ก เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ “ธ” องค์ใหม่ ต่อสายตรงถึง หลวงพ่อแผน หรือ พระญาณรักขิต รองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ประสานขอให้ทำหน้าที่รักษาการเจ้าคณะไปพลางก่อน เพื่อรอให้ปัญหาการต่อต้านสงบค่อยมาบริหารเต็มตัว ขณะที่ญาติ-โยมเกาะติดความเคลื่อนไหวใกล้ชิดมาเมื่อไหร่วุ่นวายแน่ ส่วนยอดลงชื่อคัดค้านมากกว่าสามแสน
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานความเคลื่อนไหวกระแสต่อต้าน มติมหาเถรสมาคม (ลงเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564) ถอดถอน 3 เจ้าคณะจังหวัด โดยเฉพาะที่ จ.กาฬสินธุ์ มติดังกล่าวได้สร้างความเจ็บช้ำใจให้กับชาวพุทธกาฬสินธุ์ เพราะไปปลด พระเทพสารเมธี หรือเจ้าคุณบัวศรี เจ้าอาวาสวัดประชานิยม ออกจากเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) พระที่ชาวกาฬสินธุ์ และในภาคอีสานให้ความเคารพศรัทธา อย่างไม่มีเหตุผลและไม่มีคำอธิบายใดๆ ประชาชนปักใจเชื่อว่ามีการสอดไส้ในคำสั่งดังกล่าว ซ้ำร้าย มติมหาเถรสมาคม ยังได้ตั้งให้ พระครูสุทธิญาณโสภณ (เล็ก สุทธิญาโณ) เจ้าคณะอำเภอสังคม จ.หนองคาย ที่มีคดีอธิกรณ์ เป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) แทนเจ้าคุณบัวศรีและได้รับตราตั้งไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2564
กรณีนี้ หากย้อนเรื่องราวทันทีที่ประชาชนรู้ข่าวจากโลกออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นมา มีความเคลื่อนไหวคัดค้าน มติมหาเถรสมาคม และ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่ไม่เป็นผล ไม่มีการตรวจสอบสิ่งที่ค้างใจประชาชน ทำให้เกิดกระแสต่อต้านศรัทธา มีการล่ารายชื่อกว่า 1 แสนรายชื่อและถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯไปแล้ว และยังคงมีการล่ารายชื่อคัดค้านอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ฝ่ายพระสังฆาธิการ(ธ)กาฬสินธุ์ ได้มีการประชุมและมีมติประวัติศาสตร์ไม่ยอมรับมติมหาเถรสมาคมและมีการยื่นใบลาออกจากตำแหน่งพระสังฆาธิการ ทั้งหมด ทำให้ขณะนี้ไม่มีพระสังฆาธิการในระดับตำบล และในระดับอำเภอรองรับให้ พระเล็ก เข้ามาปกครอง ประกอบกับกระแสศรัทธาที่ส่อบานปลาย ชาวบ้านในหลายอำเภอโดยเฉพาะเขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ทำการปักป้ายไม่ต้องรับพระเล็ก เพราะไม่ยอมรับและเชื่อว่าหากเข้ามาปกครองสงฆ์กาฬสินธุ์ จะทำให้เกิดเหตุการณ์สงฆ์แตกแยกที่ทาพระเค้าจะเรียกว่าเหตุ “สังฆเภท” ที่เกิดจากพระทำให้เกิดความแตกแยกในทุกกรณี เพราะการข้ามห้วยเข้ามาเป็น เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ผิดธรรมเนียมปฏิบัติของพระสายป่า ผิดกฏมหาเถรสมาคมที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย มาก่อน
นอกจากนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 4 คน ยังได้ไปแจ้งความจับ นายบัญชายุทธ นาคมุจลินท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ ในข้อหาหมิ่นประมาทและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ด้วยพฤติกรรมทำหนังสือลงวันที่ 18 ตุลาคม 2564 รายงานผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ใส่ความบุคคลถึง 7 คน อ้างว่ามีพฤติกรรมเคลื่อนไหวปลุกระดมประชาชนให้ต่อต้าน มติมหาเถรสมาคม ที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนตามกฏหมายที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์
แหล่งข่าวรายงานว่า ท่ามกลางกระแสการต่อต้าน พระเล็ก จนทำให้ไม่วัดไหนต้อนรับเพราะญาติโยมไม่ยอมรับ รายงานข่าวแจ้งว่า มีผู้มากบารมีต่อสายตรง ไปถึง พระญาณรักขิต หรือหลวงพ่อแผนรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อขอให้ หลวงพ่อแผน ทำหน้าที่รักษาการเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ไปพลางๆก่อน เพื่อรอให้เรื่องสงบ ที่ในระหว่างนั้นก็จะหาวัดเพื่อให้ตนเองเป็นเจ้าอาวาสตามกฏมหาเถรสมาคม ที่อยู่ในระหว่างรอคำตอบจากหลวงพ่อแผนว่าจะยอมรับหรือไม่ แต่ในสายข่าวแจ้งว่ากรณีนี้เป็นไปได้ยากที่จะรับเป็นรักษาการเจ้าคณะจังหวัดเพราะจะขัดศรัทธาของชาวบ้านที่ต้องการต่อต้าน พระเล็ก
นอกจากนี้ ประชาชนที่คัดค้านได้เกาะติดการเคลื่อนไหวของคณะสงฆ์ เพื่อติดตามว่า พระเล็กเข้ามากาฬสินธุ์หรือยัง ที่หากเข้ามาที่วัดใดคงจะเกิดปัญหาความวุ่นวาย และ ยังมีรายงานด้วยว่ามีการสืบสวนหาข่าวจาก ตำรวจสันติบาล และฝ่ายข่าวกรองทหาร เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว เพื่อหาข้อเท็จจริงในเชิงลึก เนื่องจากหลายฝ่ายเกรงว่าจะเกิดปัญหาวิกฤติศรัทธาในด้านพระพุทธศาสนา ที่กำลังมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีการถอดถอนในทางลับ เพื่อสืบหาว่าใครเป็นผู้ที่สอดไส้คำสั่งปลดเจ้าคณะจังหวัดทั้งสามรูปในครั้งนี้