
วันที่ 23 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหวยอลเวง 12 ล้าน กรณีนางบุญล้อม หรือ “ยายแหล่” อายุ 68 ปี เจ้าของร้านลาบก้อยยายแหล่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1หมายเลข 807779 งวดวันที่ 17 ม.ค.2568 รับเงินรางวับ 6 ล้านบาท โดยอ้างว่าลอตเตอรี่ใบนี้ ร.ต.อ.ฐิติพัฒน์ หรือ “ผู้กองเข้ม” อายุ 65 ปี ลูกค้าที่รู้ตักกันแบ่งให้ 1 ใบ เพื่อใช้หนี้ค่าลาบก้อย 120 บาท ก่อนนำมาขึ้นเงินรางวัลที่ร้านทองแห่งหนึ่ง อ.ธาตุพนม



อย่างไรก็ตาม ต่อมา “ผู้กองเข้ม” ได้นำสลากที่ถูกรางวัลที่ 1 อีก 1 ใบ มาขึ้นเงินที่ร้านทองเดียวกัน ก่อนจะแจ้งความกับ สภ.ธาตุพนม ว่าถูก “ยายแหล่” ยักยอกหวยรางวัลที่ 1 ไป โดยระบุว่า “ลอตเอตรี่ที่ให้ได้จ่ายแทนหนี้ค่าลายก้อย แค่ฝากไว้”
ล่าสุด เวลา 13.30 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางที่ร้านพัฒน์สุกร ร้านขายของชำ ห่างจากสำนักวิปัสสนากัมมัฏฐาน 900 เมตร พบนายพลพัฒน์ พรรณราย อายุ 34 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ช่วง 10 โมงวันนี้ ผู้กองเข้มมาใช้หนี้ตามกฎหมาย ผู้กองเข้มนั่งอยู่ในรถกระบะ 4 ประตูสีบรอซ์ ไม่ทราบทะเบียน ส่วน ร.ต.อ.เพชรวิชัย หรือ ผู้กองชัย ลงรถมาถามภรรยา ตนว่าอยู่ไหน บอกจะนำเงิน 1,550 บาท ที่ติดค้างมานาน 1 ปี ผู้กองชัยควักเงิน 2,000 บาทที่เหลือ 450 บาทบอกให้ติป ผู้กองเข้มจะไปดูที่กับตนเนื้อที่ 1 งาน 13 ตารางวาเพื่อซื้อทำบ้าน แต่ผู้กองชัย เพื่อนผู้กองเข้มมาดึงแขนตนไว้ไม่ให้คุยกับผู้กองเข้ม ตั้งใจจะขายให้ผู้กองเข้มในราคา 9.5 แสนบาท เพราะก่อนหน้านี้ผู้กองเข้มบอกว่าสนใจอยู่ ผู้กองเข้มติดขัดเพราะยังว้าวุ่นอยู่ รอให้เรื่องสงบก่อนคาดว่าผู้กองเข้มจะมาดูภายหลัง สาเหตุที่ผู้กองชัย รีบพาผู้กองเข้มหนีออกจากร้านเพราะมีนักข่าวมาเยอะ ต้องรอให้เรื่องสงบก่อน ผู้กองเข้มยังอยู่ใน อ.ธาตุพนม ยังไม่ได้หนีไปอิตาลีตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ฝากบอกถ้าใครเห็นผู้กองเข้มก็มาซื้อที่ให้ด้วย
พระครูภาวนาวิชยมงคล หรือ หลวงปู่เวชยันต์ อายุ 67 ปี ผู้ดูแลสำนักวิปัสสนากัมมัฏฐานสวนสมเด็จฯ กล่าวว่า มีชาวบ้านขับรถจักรยานยนต์มาบอก 2 คนว่าพบเห็นผู้กองเข้มไปจ่ายหนี้ที่ร้านขายของชำ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้ามาที่สำนักสงฆ์ในเวลาไหล่เรี่ยกัน จังหวะที่ผู้กองชัยขับรถเข้ามา พบเห็นรถยนต์ของสื่อมวลชนเยอะ จึงเลี้ยวหักหัวรถออกไป เหตุที่ผู้กองเข้มไม่กล้าลงจากรถเพราะกลัวนักข่าว หลวงปู่เวชยันต์บอกว่า “ใช่” ส่วนที่ผู้กองเข้มบอกว่าอยากจะบวชก็ไม่อยากบังคับจิตใจใคร ถึงเวลาเขาคงจะมาเอง ช่วงนี้อารมณ์คงจะหงุดหงิดอยู่
ส่วนจะมีใครเตือนสติหรือไม่คงเป็นพ่อของเขา อาตมาแค่อยากจะบอกว่าไม่ให้เขาประมาทให้ระวังตัวเองเอา หลวงพ่อก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหนตอนนี้ แต่มานอนที่นี่ตนก็ไม่ได้ไล่เขาไป เสื้อผ้าผู้กองเข้มก็ยังอยู่เต็มกุฏิ หลังผู้กองเข้มถูกลอตเตอรี่หลวงพ่อก็เป็นห่วงอยู่ คุยกับพระในวัดแล้วหลวงพ่อว่าจะไปแจ้งตำรวจว่าคนหาย ช่วงนี้ฤดูหนาวหากกินเหล้ามากกลับมาถึงหน้าบ้านตายก็ยังมี ผู้กองเข้มก็กินเหล้าธรรมดาที่ไหน เพราะตำรวจกินเหล้าทั้งนั้นโยม เป็นห่วงบ้างเพราะเคยอาศัยอยู่ด้วยกัน
ยายสำลี อายุ 61 ปี เพื่อนยายแหล่ กล่าวว่า ช่วง 10 โมงเช้ามีตำรวจ 1 คนแต่งชุดในเครื่องแบบ มาที่ร้านลาบก้อยยายแหล่ บอกว่ามารับตนไป สภ.ธาตุพนม บอกว่าเชิญไปให้การตามความเป็นจริง ทีแรกไม่อยากไปตำรวจบอกว่าอยากให้ไปเล่าให้ฟังเรื่องลอตเตอรี่ ตนจึงให้การไปว่าผู้กองเข้มไม่ได้มาขอแบ่งเงิน 2 ล้าน แต่ให้ลอตเตอรี่ 1 ใบกับยายแหล่จริง ซึ่งตนเป็นคนเห็นวันที่ผู้กองเข้มให้หวย 1 ใบก่อนออก 1 วัน ตำรวจสอบปากคำถามย้ำว่า หลังหวยออกผู้กองเข้มมาขอแบ่งเงิน 2 ล้านหรือไม่ ตนบอกว่าไม่ผู้กองเข้มไม่ได้พูด
วันที่ผู้กองเข้มมาหายายแหล่มาพูดแต่ว่าอยากจะบวช 3 เดือนและแจกไข่ 499 แผง ตามที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวก่อนหน้านี้ ตำรวจยังถามตนว่าติดต่อยายแหล่ได้หรือไม่ ตนตอบกลับไปว่าติดต่อยายแหล่ไม่ได้ หลังตำรวจสอบปากคำเสร็จที่โรงพักนาน 1 ชั่วโมง ตำรวจนายดังกล่าวได้ขับรถยนต์มาส่งคนที่ร้านลาบเช่นเคย