เกษตรกรชาวยางตลาด ปลูกพืชทนแล้งทางเลือกใหม่ขายเมล็ดพันธุ์โกยเงินแสน

เกษตรกรชาวอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ รวมกลุ่มปลูกมะเขือเทศลูกผสมทนสภาพอากาศแล้งขายเมล็ดพันธุ์กิโลกรัมละ 12,000 บาท  เผยเป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือกใหม่ในฤดูแล้ง ได้ผลผลิตดีกว่าปลูกข้าวนาปรัง และพืชหน้าแล้งชนิดอื่น ระบุมีรายได้ขั้นต่ำ 70,000 – 300,000 บาท

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2563 จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพ ของเกษตรกรชาว จ.กาฬสินธุ์ ในฤดูแล้ง พบว่าในพื้นที่ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้มีเกษตรกรทำการปลูกมะเขือเทศลูกผสม เพื่อขายเมล็ดพันธุ์ให้กับบริษัทเอกชนส่งขายต่างประเทศเป็นจำนวนมาก

นางบุพผา ภูใบบัง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านเว่อ  หมู่ 2 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เดิมในช่วงฤดูแล้ง จะปลูกข้าวนาปรัง แต่เนื่องจากการทำนาปรัง ต้องใช้น้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าวปริมาณมาก บางปีประสบปัญหาภัยแล้ง น้ำไม่เพียงพอ ผลิตข้าวนาปรังไม่ได้ผล หรือหากจะปลูกพืชหน้าแล้งชนิดอื่น เช่น ผักสวนครัว ก็ราคาต่ำ เพราะมีการปลูกกันมาก ผลผลิตล้นตลาด พอมีบริษัทเอกชนเข้ามาส่งเสริมปลูกมะเขือเทศลูกผสมในพื้นที่   ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือกใหม่ในฤดูแล้ง โดยมีสัญญาการซื้อขายเมล็ดพันธุ์ พร้อมให้สินเชื่อค่าปุ๋ยยา ค่าแรงด้วย จึงตัดสินใจปลูก

นางบุพผา กล่าวอีกว่า ตนกับเพื่อนบ้านได้ปลูกมะเขือเทศลูกผสมต่อเนื่องมาหลายปี โดยใช้พื้นที่ไม่มาก ปลูกกันคนละ 2-3 งาน หรือคนละประมาณ 1,500-3,000 ต้น โดยปลูก 2-3 รุ่น มีการทำแปลงปลูกพันธุ์ตัวผู้ แปลงพันธุ์ตัวเมีย  มีกรรมวิธีที่ละเอียด ต้องอาศัยความเพียรและความพยายาม ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมดิน การทำแปลงปลูก การเพาะเมล็ดพันธุ์ การดูแลเรื่องน้ำให้พอเหมาะ เฝ้าระวังการเกิดโรค กำจัดศัตรูพืช หนอน เพลี้ย รบกวน โดยเฉพาะมีการตอนดอกตัวเมีย นำเกสรตัวผู้มาผสม การตรวจลูกผสม การเก็บผลสุก การล้างเมล็ด การตากเมล็ด การเก็บเมล็ด และการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์

ทั้งนี้ การเพาะปลูกมะเขือเทศลูกผสม เริ่มเพาะปลูกมาตั้งต้นเดือนพฤศจิกายน 2562 ถึงช่วงปลายเดือนธันวาคมผสมเกสร ช่วงเดือนมกราคม 2563 เริ่มติดลูก ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์เริ่มเก็บผลสุกและเอาเมล็ดพันธุ์ หลายปีก่อนบริษัทเอกชนรับซื้อเมล็ดพันธุ์ ก.ก.ละ 1,500-3,000 บาท ปีนี้ให้ราคา ก.ก.ละ 12,000 บาท ซึ่งราคาแต่ละสายพันธุ์อาจแตกต่างกัน ตามความยากง่ายในการผลิต โดยเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศดังกล่าว บริษัทเอกชนที่เข้ามาส่งเสริมซึ่งเป็นพ่อค้าคนกลาง จะส่งไปจำหน่ายต่างประเทศ เช่น ไต้หวัน แคนาดา อเมริกา เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ผลผลิตจากการปลูกมะเขือเทศลูกผสมที่ผ่านมา ได้ผลดี คือมีกำไร หักต้นทุนค่าปุ๋ยยา ค่าแรงแล้ว ยังมีรายได้ดีกว่าปลูกข้าวนาปรังหรือปลูกพืชชนิดอื่น โดยเฉลี่ยได้กำไรจากการปลูกมะเขือเทศลูกผสมในฤดูแล้งอย่างน้อย 70,000 -300,000 บาท  นอกจากนี้ประโยชน์ที่ตามมาคือได้ผลของมะเขือเทศจากแปลงตัวผู้  เป็นอาหารในครัวเรือนหรือเก็บจำหน่ายตลาดชุมชน สำหรับใส่ตำมะละกอ หรือใส่แกงส้ม รวมทั้งยังได้ปุ๋ยที่เหลือในดินบำรุงต้นข้าวนาปีอีกด้วย