ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์หนุ่มสายเปย์ หลังก่อเหตุลักพาตัวเด็กชายวัย 12 ปีไปแล้วมอมยาเสพติด ด้านผู้การฯกาฬสินธุ์ระบุผู้ต้องหาพาตัวเด็กไปแล้วให้เสพยาจริง แต่ไม่ได้พาไปขโมยรถจยย. เผยประวัติเคยก่อเหตุคดีลักษณะเดียวพรากผู้เยาว์มอมยาพร้อมพาไปเปย์มาแล้ว รวมทั้งยังมีคดียักยอกทรัพย์และพัวพันกับยาเสพติด
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อวิทยา บุญตาโลก นายก อบต.คลองขาม ได้โพสต์ภาพและข้อความทางเฟซบุ๊ก เพื่อประกาศตามหา ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี หลังหายตัวออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 14 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา โดยผู้ปกครองเข้าแจ้งความที่ สภ.โนนสูง อ.ยางตลาด เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการล่อลวงลักพาตัวไปมอมยาบ้าแล้วพาไปตะเวนขโมยรถจักรยานยนต์และได้รับอันตราย พร้อมกับขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาเบาะแส และขอพลังสื่อโซเชียลช่วยกันติดตามหา กระทั่งชุด ชรบ.ตำบลคลองขามและตำรวจสภ.ยางตลาดสามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ลักพาตัว ด.ช.เอได้ ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2563 พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากผู้ปกครองของเด็กชายวัย 12 ปี ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.โนนสูงว่า ลูกชายได้หายตัวไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสคนร้ายที่พาเด็กไป และได้ทำการจับกุมตัวได้ดังกล่าว พร้อมนำตัวมาสอบสวน โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหามีหมายจับในคดียักยอกทรัพย์ ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ส่วนเรื่องการลักพาตัวเด็กชายวัย 12 ปีนั้น เท่าที่สอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหานั้นติดยาเสพติด และเด็กก็มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งถูกชักจูงโดยใช้ยาเสพติดเป็นตัวล่อหลอกพาเด็กไปแล้ว ซื้อยาเสพติดให้เด็กเสพ ก่อนที่จะพาไปกิน ไปเที่ยว และพาไปที่บ้านมารดาของผู้ต้องอยู่ที่ จ.สกลนคร 3 วัน แต่ไม่ได้พาไปขโมยรถจักรยานยนต์ ก่อนที่จะนำตัวกลับมา
พล.ต.ต.สมนึก กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหารายนี้เบื้องต้นพบว่ายังพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน คือหลอกเด็กชายอายุ 12-13 ปี ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดไป มอมยาเสพติดแล้วพาไปกินไปเที่ยวและล่วงละเมิดทางเพศในพื้นที่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งถูกจับกุมตัว เมื่อช่วงปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมยักยอกรถจักรยานยนต์มาหลายครั้ง โดยการยืมรถจักรยานยนต์ของเพื่อนบ้านและคนรู้จักไปขับขี่แล้วไม่ยอมนำมาคืน ซึ่งล่าสุดก็ได้ไปเอารถจักรยานยนต์จากคนรู้จักที่ จ.สกลนครแล้วไม่นำกลับไปคืน ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว
พล.ต.ต.สมนึก กล่าวอีกว่า สรุปคือผู้ต้องหารายนี้มีคดียักยอกทรัพย์ รถจักยานยนต์ 2 คดี ที่ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ และสภ.พังโคน จ.สกลนคร ส่วนคดีพรากผู้เยาว์นั้นมี ที่สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และล่าสุดที่สภ.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ลักพาตัวเด็กชายวัย 12 ปี ซึ่งการดำเนินคดีอยู่ระหว่างการสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนที่จะแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ พร้อมกับอยู่ระหว่างการขยายผล เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหาจะต้องเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือค้ายาเสพติด เนื่องจากมีอาชีพทำไร่ ทำนา ซึ่งการที่จะมีเงินมาซื้อยาเสพติดมาปรนเปรอ เป็นหนุ่มสายเปย์พาเด็กไปกินไปเที่ยวต้องใช้เงินมากพอสมควร ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่านำเงินมาจากไหน แต่ได้กำชับให้ทุกพื้นที่ที่ผู้ต้องหาไปก่อเหตุและกระทำความผิดให้ดำเนินคดีทุกคดี เนื่องจากพฤติกรรมถือว่าเป็นภัยต่อสังคม ตลอดจนเพื่อที่จะไม่ให้เป็นแบบอย่างและให้เข็ดหลาบ
อย่างไรก็ตามส่วนกรณีเด็กชายวัย 12 ปีนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือฟื้นฟูรักษาต่อไป ทั้งนี้ขอฝากเตือนไปถึงผู้ปกครองคนอื่นๆ ที่มีบุตรหลานเป็นเด็กและเยาวชนด้วย ว่าอย่าหลงเชื่อคนแปลกหน้า หรือพบเห็นบุคคลใดมีท่าทางไม่น่าไว้ใจ ให้แจ้งผู้ใหญ่บ้านหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
ด้าน น.ส.บี มารดา ด.ช.เอ กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบจากชาวบ้านและเด็กๆ ซึ่งเป็นเพื่อนของลูกชาย ว่านายสุชาติผู้ต้องหา เพิ่งเข้ามาแฝงตัวในหมู่บ้าน ก่อนที่จะมอมยาและพาลูกชายไป ทั้งนี้ มีคนชักชวนให้นายสุชาติมาจีบสาวในหมู่บ้าน เพราะเห็นว่านายสุชาติเป็นคนมีเงิน โดยนายสุชาติชอบที่จะมาตีสนิทกับเด็กผู้ชาย เพื่อสร้างความคุ้นเคย ซึ่งสันนิษฐานว่าจะเข้ามาใช้อุบายล่อลวง และคาดว่าจะให้เด็กชายที่หลงเชื่อเสพยาบ้าแล้วอาจจะพาไปทำมิดีมิร้าย ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะมาเกิดกับลูกชายตน โชคดีที่กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย ซึ่งต่อไปนี้ก็จะเพิ่มความระมัดระวัง และดูแลเอาใจใส่ลูกให้มากกว่าเดิม