ตามนโยบายรัฐบาลโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการประชุมขับเคลื่อนการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ ปัญหายาเสพติดที่แพร่กระจายไปทุกหย่อมหญ้าในประเทศไทย เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้คำมั่นสัญญาว่าจะเป็นวาระแห่งชาติปัญหาเหล่านี้ต้องลดน้อยลง หรือหมดไปในระยะอันใกล้ ทั้งเรื่องการทำผู้เสพเป็นผู้ป่วยต้องได้รับการรักษา ดูแล และส่งคืนผู้ติดยาเสพติดกลับสู่อ้อมกอดของพ่อแม่พี่น้อง ทำให้มีอาชีพที่เหมาะสม รวมไปถึงการป้องกันที่ต้นน้ำ เรื่องการลักลอบนำเข้าสารตั้งต้น ไม่ให้มีการผลิต ไม่ให้เสพ ไปจนถึงระยะสุดท้ายที่เมื่อยึดยาเสพติดมาแล้ว ต้องเร่งในการเผาทำลายเพื่อตอบสังคมให้ได้ รวมถึงการยึดทรัพย์ที่เป็นเรื่องใหญ่ ต้องเร่งทำอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ผู้เสพ เส้นทางการเงินที่เข้มแข็ง จนกลับมาผลิตได้อีกภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจเอกกิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ,ได้นำนโยบายรัฐบาลมาเป็นแนวทางในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวสู่การปฏิบัติทุกพื้นที่ตำรวจภูธรภาค ๓ โดย พลตำรวจโทวัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค ๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบการกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายตัดวงจรยาเสพติดทุกระดับ สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนและพื้นที่ชั้นในภายใต้การอำนวยการของ นายณ รงค์ เทพเสนา ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญพลตำรวจตรีนิพล บุญเกิด ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ , พันตำรวจสุทธกาญจน์ ฟักทองรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ , พันตำรวจเอกพล พิชัยยุทธ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ โดยพันตำรวจโทธีราวุธ ทวีสุข, พันตำรวจโทวัฒนศักดิ์ บุตรโคตร พันตำรวจโทฤกษ์มงคล ตังวัฒนา พร้อมพวก ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา คือ นายปัญยา หรือตาล เคนท้าว อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ 12 บ้านปลาดุก ตำบลไร่น้อย อำเอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานีตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญแถลงผลการจับกุมยาเสพติดจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คนของกลาง ยาบ้า รวม 700,000 เม็ด
ตามนโยบายรัฐบาลโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการประชุมขับเคลื่อนการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ ปัญหายาเสพติดที่แพร่กระจายไปทุกหย่อมหญ้าในประเทศไทย เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้คำมั่นสัญญาว่าจะเป็นวาระแห่งชาติปัญหาเหล่านี้ต้องลดน้อยลง หรือหมดไปในระยะอันใกล้ ทั้งเรื่องการทำผู้เสพเป็นผู้ป่วยต้องได้รับการรักษา ดูแล และส่งคืนผู้ติดยาเสพติดกลับสู่อ้อมกอดของพ่อแม่พี่น้อง ทำให้มีอาชีพที่เหมาะสม รวมไปถึงการป้องกันที่ต้นน้ำ เรื่องการลักลอบนำเข้าสารตั้งต้น ไม่ให้มีการผลิต ไม่ให้เสพ ไปจนถึงระยะสุดท้ายที่เมื่อยึดยาเสพติดมาแล้ว ต้องเร่งในการเผาทำลายเพื่อตอบสังคมให้ได้ รวมถึงการยึดทรัพย์ที่เป็นเรื่องใหญ่ ต้องเร่งทำอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ผู้เสพ เส้นทางการเงินที่เข้มแข็ง จนกลับมาผลิตได้อีกภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจเอกกิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ,ได้นำนโยบายรัฐบาลมาเป็นแนวทางในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวสู่การปฏิบัติทุกพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3โดย พลตำรวจโทวัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบการกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายตัดวงจรยาเสพติดทุกระดับ สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนและพื้นที่ชั้นในภายใต้การอำนวยการของ นายณ รงค์ เทพเสนา ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญพลตำรวจตรีนิพล บุญเกิด ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ , พันตำรวจสุทธกาญจน์ ฟักทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ , พันตำรวจเอกพล พิชัยยุทธ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ โดยพันตำรวจโทธีราวุธ ทวีสุข, พันตำรวจโทวัฒนศักดิ์ บุตรโคตรพันตำรวจโทฤกษ์มงคล ตังวัฒนา พร้อมพวก และพันตำรวจเอก. โชตินรินทร์ ศุภาวรัตม์ ผกก .ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา คือ
นายปัญยา หรือตาล เคนท้าว อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ 12 บ้านปลาดุก ตำบลไร่น้อย อำเอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานีผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมคุมตัว นายปัญยาฯ พร้อมด้วยของกลาง มาที่ กก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ นายปัญยาฯ ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับ นายตั้ม นายอ๊อฟ นายมอส และน.ส.กิ๊ฟ ร่วมกันเดินทางมาเก็บเอายาบ้าที่เกิดเหตุ เพื่อลำเลียงยาเพติดส่งมอบให้กับลูกค้าตามพื้นที่ต่างๆ จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปทุมราช จ.อำนาจเจริญ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ต้องที่หลบหนี และร่วมกับ นายปัญยาฯ เดินทางมาเก็บเอายาบ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามตัว เพื่อมาดำเนินคดีต่อไป
ตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่ง แจ้งเบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1386 , 1599 สายด่วน 191 Police I lert U ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และลดปัญหายาเสพติด ในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป
