วันที่ 4 ก.พ.68 เวลา 14.30 น. ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 236 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ยงเกียรติ มนปราณีต ผบช.ตชด. พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.ภาค 2, พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชด.23, พ.ต.ท.ธนพล ท้าวหนู รอง ผกก.ตชด.23, พ.ต.ท.จิรวัฒน์ รางสาตร์ ผบ.ร้อย ตชด.236
พ.ต.ท.ธนพล ท้าวหนู รอง.ผกก. ตชด.23 พ.ต.ท.จิรวัฒน์ รางสาตร์ ผบ.ร้อย ตชด. 236 แถลงการจับกุมผู้ตัองหายาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) จำนวน 6 คน ชาย 5 คน หญิง 1 คน พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 200,000 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน 1 คัน ทะเบียน บบ.2359 สกลนครโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง
พ.ต.ท.จิรวัฒน์. กล่าวว่าว่า การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 67 เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด ร้อย ตชด.236 ได้ทำการจับกุมตัวนายณัฐนนท์ หรือ ปาล์ม พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 62,000 เม็ด ที่ บริเวณ ปั๊มน้ำมัน ปตท.ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผลกลุ่มเครือข่าย จากข้อมูลโทรศัพท์จนสืบทราบว่า นายวรากร หรือภีม อภัยโส ราษฎรบ้านเซกา ต.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ อยู่ในกลุ่มลำเลียงยาเสพ(ยาบ้า) จากพื้นที่ชายแดน จ.นครพนม ไปส่งให้กับผู้จำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้า)ในจังหวัดสกลนคร
ต่อมา เมื่อวันที่ 3 ก.พ.68 เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด ร้อย ตชด.236 ได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปัดนาม) ว่า นายวรากร หรือภีม อภัยโส จะไปรับยาเสพติด(ยาบ้า) ที่บ้านนาข่าท่า ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและวางแผนติดตามจับกุม นายวรากร หรือภีม อภัยโส ได้ที่ บริเวณปั้มน้ำมันคาร์ลเท็กซ์ ต.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ พร้อมผู้ต้องหารวม 3 คน ของกลางยาบ้าบ้าประมาณ 34,000 เม็ด สอบถาม นายวรากร หรือภีมฯ บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าตนกับนายสองได้ซุกซ่อนยาบ้าไว้อีกจำนวนหนึ่ง ที่สวนยางพารา บ้านดงไร่ ต.เชกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ ของนายสอง หรือท้าวพูขัน ราษฎรชาวลาว เจ้าหน้าที่ จึงได้ให้นายวรากร หรือภีม พาไปที่สวนยางดังกล่าว พบนายสอง หรือท้าวพูขัน กับพวก รวม 3 คนพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่บริเวณกองไม้ข้างเตาถ่าน ในพื้นที่ของสวนยางดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ธนพล ท้าวหนู รอง.ผกก. ตชด.23 กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การจับกุมผู้หารวม 6 คน พร้อมของกลาง เป็นการขยายผลจากการจับกุมครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 พ.ย.67 โดยการบูรณาการของฝ่ายความมั่นคง กองกำลังทหาร ตำรวจ พี่น้องประชาชนที่ชี้เบาะแส ส่วนผู้ต้องหาจะทำสอบปากคำเพื่อขยายผลและจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ด้านการป้องกันและปราบยาเสพติดตามแนวชายแดน ทางตำรวจตระเวนชายพร้อมจะร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ปราบปรามยาเสพติดแบบจริงจัง
