“มหานิยม” นิมนต์ “พระเล็ก” ลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อหยุดทำคณะสงฆ์และศรัทธาประชาชนแตกแยก แฉเคยให้ ส.ส.พื้นที่จังหวัดหนองคาย โทรศัพท์บอกตนว่าจะไม่เข้ากาฬสินธุ์แต่กลับตระบัดสัตย์ หวังลาภยศ ไม่เห็นแก่พระพุทธศาสนา ขณะที่ประชาชนปักหลักไล่ต่อเนื่องยังวิงวอน “พระเล็ก” ให้ลาออกจากตำแหน่ง ก่อนมีการยกระดับขับไล่รุนแรงมากขึ้น
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ที่วัดประชานิยม เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ สถานที่จัดสอบนักธรรมโทและนักธรรมเอก พบว่ายังคงมีประชาชนปักหลักเพื่อขับไล่ “พระเล็ก” หรือ พระครูสุทธิญาณโสภณ (เล็ก สุทธิญาโณ) เจ้าคณะอำเภอสังคม จ.หนองคาย หรือ เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) รูปใหม่ เป็นวันที่ 3 แต่ก็ยังไม่พบพระเล็กเข้ามายังสนามสอบ ซึ่งจนถึงขณะนี้รายงานระบุว่ายังไม่สามารถหาวัดหรือสำนักสงฆ์ และ ตั้งเลขานุการของตนในการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์สายธรรมยุตนิกายได้
ทั้งนี้การปรากฏตัวของพระเล็ก ที่เข้าไปกราบหลวงปู่หาที่วัดสักกาวัน ภูกุ้มข้าวไดโนเสาร์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ยังสร้างความเจ็บช้ำใจต่อคณะศิษยานุศิษย์ของเจ้าคุณบัวศรีและประชาชนทั่วไปต่างเชื่อกันว่า ปัญหาวิกฤติศรัทธาและปัญหาสงฆ์แตกแยกจะยุติลงได้ นั่นคือ “พระเล็ก” ต้องลาออกจากเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเปิดทางให้มหาเถรรสมาคมและสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติใช้เป็นทางออกต่อปัญหานี้
นายกุเทพ ผกานนท์ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/8 ชุมชนสุขสบายใจ เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า อยากให้พระเล็กเสียสละเพื่อส่วนรวม โดยการลาออกจากเจ้าคณะจังหวัด เนื่องจากคณะสงฆ์เองรวมทั้งประชาชนชาวกาฬสินธุ์ไม่สบายใจ ซึ่งหากลาออกชาวพุทธกาฬสินธุ์ก็จะมีความสุข ไม่อยากให้เป็นบาปต่อกัน อยากให้อภัยทานแก่กัน จึงขอให้พระเล็กลาออก เพื่อยุติปัญหานี้โดยเร็ว
ด้านนายวิลัย ส่งสุข อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 ถ.บายพาสทุ่งมน ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า แม้หลวงพ่อเจ้าคุณบัวศรีจะบอกพวกเราแล้วว่า ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวหรือไปพูดอะไร เนื่องจากหลวงพ่อไม่เอา ไม่ยึดติดตำแหน่ง แต่บรรดาศิษยานุศิษย์ และประชาชนชาวกาฬสินธุ์รับไม่ได้ เพราะจิตใจของเราอยากรู้และอยากถามพระเล็กว่า คนกาฬสินธุ์เขาต่อต้านไม่ต้อนรับแล้วยังอยากจะมาอีกหรือไม่ หรือว่าหลงในอำนาจ โดยส่วนตัวแล้วไม่รู้จักกับพระเล็ก แม้จะได้รับการแต่งตั้งมาจากมหาเถรสมาคม แต่ก็อยากขอนิมนต์ให้พระเล็กลาออก เพื่อคืนความสุขให้ชาวกาฬสินธุ์
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อจาก ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ผู้ออกมาปกป้องศาสนาและดร.นิยม ระบุว่า เมื่อต้นสัปดาห์ก่อน มีความพยามของ พระเล็ก ที่จะมาพูดคุยทางโทรศัพท์กับตน แต่ตนได้ตอบที่จะไม่สนทนาด้วย จึงมี ส.ส.จังหวัดหนองคายโทรมายืนยันว่า “พระเล็ก” จะไม่เข้าไปอยู่ในพื้นที่กาฬสินธุ์ แต่เมื่อเห็นพฤติกรรมนี้แล้วการกระทำดังกล่าวจึงถือว่า “พระเล็ก” ตระบัดสัตย์
ดร.นิยม เวชกามา หรือมหานิยม ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนรู้สึกวิตกกังวนและเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของ “พระเล็ก” ที่ต้องการจะเข้ามาปกครองสงฆ์กาฬสินธุ์ ให้จงได้ พบเห็นการเดินทางเข้ามาพื้นที่กาฬสินธุ์ มีการเข้าไปกราบขอพบพระผู้ใหญ่ โดยมีการใช้กำลังทหารคุ้มกันพร้อมกับรถอีกหลายคัน ตนคงต้องถามว่าพระเล็กคิดอะไรอยู่ การอยากได้ตำแหน่ง เพราะมีกิเลส มากมายขนาดนั้นเลยหรือ การกระทำนี้บ่งชี้ให้เห็นว่า “พระเล็ก” ไม่คำนึงถึงพระธรรมวินัยเลย หรือทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความโลภ จนลืมวัตรปฎิบัติของพระสงฆ์
“พระครูเล็กจะใช้กำลังทหารคุ้มกันอย่างไรก็ตาม แต่ชาวพุทธกาฬสินธุ์ ได้ต้อนรับจนถึงขนาดออกมาเดินขบวนขับไล่ จะอยู่กันอย่างไร จนถึงวันนี้ยังไม่มีวัดอยู่ พระเล็กปรากฏตัวที่วัดสักกะวันจังหวัดกาฬสินธุ์ เพียงเพื่อให้เกิดความชอบธรรมไม่เกินกำหนด ละทิ้งหน้าที่เกิน 30 วันเท่านั้นหรือ แต่มุมมองของตนนั้นบอกได้เลยว่าพระเล็กไม่ถูกกฎหมายมาแต่แรกแล้ว เพราะไม่อยู่ในเขตพื้นที่กาฬสินธุ์มาก่อน จะมาเอา 30 วัน ทำไม ขอให้ลดทิฏฐิลงเสียที ธรรมปฎิบัติ ของพระป่าไม่เคยมีแบบนี้ ครูบาอาจารย์สายพระป่า ถือปฎิบัติ มีแต่ให้ละโลภ โกรธ หลง ปล่อยวาง แต่พระเล็ก ทำแบบนี้คืออะไร”ดร.นิยม กล่าว
ดร.นิยม กล่าวต่อไปว่า พระครูเล็ก เคยบอกกับ ส.ส.หนองคาย คนหนึ่ง ขอสงวนนาม บอกว่าไม่ประสงค์จะเดินทางมาจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่อยากอยู่ที่วัดอำเภอสังคม จ.หนองคาย เพราะตนได้สร้างวัดมากับมือแล้ว และอ้างว่าถึงขนาดสร้างตึกโรงพยาบาลด้วย แต่กลับดิ้นมาแบบนี้ตระบัดสัตย์หรือเปล่า ถึงขนาดท่าน ส.ส.หนองคาย คนดังกล่าว จะต่อโทรศัพท์หาพระครูเล็ก ให้คุยกับตนเพื่อคุยยืนยันว่าไม่ประสงค์มากาฬสินธุ์จริงๆ ตนขอวิงวอนให้พระผู้ใหญ่ผู้ปกครองสงฆ์ธรรมยุต ได้เร่งรีบเข้ามาแก้ไขปัญหา โดนด่วน เพราะพระเล็กได้เดินหน้าทำลายสงฆ์กาฬสินธุ์แล้ว ตนคิดว่า เข้าข่ายสังฆเภท ไม่เห็นแก่พระพุทธศาสนาแล้ว
อย่างไรก็ตามสำหรับความเคลื่อนไหวบริเวณสนามสอบที่กาฬสินธุ์ จนถึงขณะนี้ยังไม่พบการปรากฏตัวของ ”พระเล็ก” ซึ่งหากวันนี้ “พระเล็ก” ไม่สามารถหาวัดหรือสำนักสงฆ์ เพื่อตั้งเป็นสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ ก็จะมีผลต่อ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ใน ข้อจริยาของพระในตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งถือเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ที่ไม่สามารถเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ได้ภายใน 30 วัน จะเข้าข่ายละเว้นการปฏบัติหน้าที่ ผิดตามมาตรา 157 ด้วยเช่นกัน ในอีกทาง ประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้วิงวอน “พระเล็ก” ให้ลาออกเพื่อยุติปัญหานี้ก่อนที่จะมีการยกระดับในการขับไล่ที่รุนแรงต่อไป