ป้าวัย 56 ปี อาชีพหาของเก่า ชาวตำบลโคกสะอาด อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ สุดงง และเดือดร้อนหนัก หลังอยู่ดีๆได้รับใบแจ้งหนี้จาก อบต.โคกสะอาด เรียกเก็บเงินกู้ 2 หมื่นบาท พร้อมดอกเบี้ย ก่อนนำใบแจ้งหนี้ท้วงติง อบต.ยิ่งงงหนัก พบเพื่อนบ้านอีก 14 คนได้รับใบแจ้งหนี้เหมือนกันทั้งที่ไม่ได้กู้ ตรวจสอบเบื้องต้นถูกปลอมลายมือชื่อกู้เงินในนามกลุ่มละ 1 แสนบาท ก่อนเข้าร้องขอความช่วยเหลือศูนย์ดำรงธรรม ติดตามความคืบหน้าทางคดีกับ ป.ป.ช. ระบุผ่านมา 4 ปียังตรวจสอบไม่เสร็จ วอนเร่งคดีหาคนปลอมลายมือชื่อมาลงโทษ เนื่องจากตกเป็นลูกหนี้โดยไม่ได้ใช้เงินสักบาท
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ นางหนูเกต นาสมฝัน อายุ 56 ปี ชาวบ้านสะอาด หมู่ 2 ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเพื่อนบ้าน เข้าติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีชาวบ้าน และ อบต.โคกสะอาด ในฐานะเจ้าทุกข์ ขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ และเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ที่สภ.ฆ้องชัย ในปี 2560 โดยอ้างว่าถูกบุคคลอื่น ปลอมแปลงลายมือชื่อ รวมกลุ่มกู้เงินโครงการเศรษฐกิจชุมชน จาก อบต.โคกสะอาด กลุ่มละ 1 แสนบาท โดยยืนยันว่าตนไม่ได้กู้ ทั้งไม่เคยทราบเรื่องการกู้เงินโครงการดังกล่าวมาก่อน จากการขอตรวจสอบหลักฐานกับทางสำนักปลัด อบต.โคกสะอาด พบว่าสัญญากู้เงินเกิดขึ้นเมื่อปี 2552 และมีหนังสือทวงหนี้จาก อบต.โคกสะอาดในปี 2560
นางหนูเกตกล่าวว่า ตนเป็นชาวบ้านธรรมดา หลังจากจากว่างเว้นจากการทำนา ก็ตะเวนหาของเก่าขาย พอมีรายได้เสริมจุนเจือครอบครัว ไม่เคยรู้เรื่องเลยว่าทาง อบต.โคกสะอาดมีโครงการการปล่อยเงินกู้ให้ชาวบ้าน และตนขอสาบานว่าไม่เคยไปเข้าชื่อรวมกลุ่มกับเพื่อนบ้าน ไปยื่นเรื่องขอกู้เงินแต่อย่างใด เพราะแต่ละวันก็ตะเวนหาของเก่ามาคัดแยกขาย พอมีรายได้เลี้ยงชีพ แต่แล้วอยู่ดีๆ ในปี 2560 ก็ได้รับใบแจ้งหนี้ว่าตนเป็นลูกหนี้ อบต.โคกสะอาด อยู่ในกลุ่มเย็บที่นอนหมอนขิด ค้างชำระเงินกู้จำนวน 2 หมื่นบาท พร้อมเบี้ยปรับจำนวนหนึ่ง จึงรู้สึกงงและตกใจเป็นอย่างมาก
นางหนูเกต กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากได้รับใบแจ้งหนี้ดังกล่าว ก็ได้ไปท้วงติงกับทาง อบต.โคกสะอาด ก่อนพบว่ามีเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่ง รวมกับตนเป็น 14 คน ที่ได้รับใบแจ้งหนี้ลักษณะเดียวกัน จากการขอตรวจสอบกับทางสำนักปลัด อบต.โคกสะอาด ก็ได้พบพิรุธในเอกสารยื่นคำขอกู้ เพราะไม่ใช่ลายมือของตน ขณะที่ชื่อบางคนเขียนผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก ที่คนเป็นเจ้าของชื่อจะเขียนชื่อตนผิด เช่น บางคนไม่มีตัวการันต์ ก็ใส่ตัวการันต์ให้ บางคนก็ใช้ตัวสะกดผิด โดยเฉพาะตน ซึ่งมีอาชีพหาของเก่าขาย จะไปมีชื่อกู้เงินอยู่ในกลุ่มเย็บที่นอนหมอนขิดได้อย่างไร ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบ อบต.โคกสะอาดปล่อยเงินกู้ 12 โครงการ โครงการละ 1 แสนบาท ชาวบ้านยืนยันถูกปลอมแปลงลายมือ 2 โครงการ คือโครงการกู้ยืมเงินเศรษฐกิจชุมชนกลุ่มจักสาน และกลุ่มเย็บที่นอนหมอนขิด
“เมื่อพบความผิดปกติดังกล่าว และเชื่อว่ามีบุคคลแอบปลอมแปลงลายมือไปกู้เงิน ตนและชาวบ้านที่ประสบปัญหาและได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์และขอความช่วยเหลือกับศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ เมื่อปี 2560 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และดำเนินคดีกฎหมายอย่างถึงที่สุดกับบุคคลที่ปลอมแปลงลายมือชาวบ้าน จนเวลาล่วงเลยมา 4 ปี ยังไม่มีความคืบหน้า จึงติดตามเรื่องกับ อบต.โคกสะอาดหลายครั้ง กระทั่งทราบว่าขณะนี้เรื่องอยู่ในการตรวจสอบของ ป.ป.ช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ จึงได้เดินทางมาขอทราบคำตอบว่าดำเนินการถึงขั้นตอนไหนแล้ว เพราะตนกลัวว่าจะตกเป็นลูกหนี้โดยไม่ได้ใช้เงินสักบาท ซึ่งทุกวันนี้ตนและเพื่อนบ้านที่ถูกปลอมแปลงลายมือกู้เงิน ต่างอยู่ในอาการเครียด เป็นทุกข์ใจ ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ จึงขอวิงวอนทาง ป.ป.ช.เร่งดำเนินการ เพื่อหาคนกระทำผิดมารับโทษโดยเร็ว และตนขอยืนยันและสาบานว่าไม่ได้กู้เงินจริงๆ” นางหนูเกตกล่าว
ด้านนายจรัส สงวนรัตน์ ปลัด อบต.โคกสะอาด กล่าวว่า ในปี 2552 อบต.โคกสะอาด โดยผู้บริหารคนก่อน ได้มีโครงการปล่อยเงินกู้โครงการกู้ยืมเงินเศรษฐกิจชุมชนให้กับชาวบ้านจริง ทั้งนี้ ตามนโยบายรัฐบาลและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น โดยมีเงื่อนไขว่าชาวบ้านรวมกลุ่มกันเข้ามาขอกู้กลุ่มละ 1 แสนบาท สัญญากู้เงิน 5 ปีปลอดดอกเบี้ย พอมาในปีหลังที่ครบสัญญากู้เงินดังกล่าว สตง.ได้เข้ามาตรวจสอบสถานะทางการเงินของ อบต.โคกสะอาด ซึ่งเป็นไปตามปฏิทินปฏิบัติในรอบปีงบประมาณ ได้พบว่าเงินโครงการกู้ยืมเงินเศรษฐกิจชุมชนกลุ่มจักสาน และกลุ่มเย็บที่นอนหมอนขิด ไม่ได้มีการชำระเข้ามา ทางสำนัก ปลัด อบต.จึงได้มีหนังสือแจ้งหนี้ไปยังชาวบ้าน 2 โครงการดังกล่าว
นายจรัสกล่าวอีกว่า ตนเองเพิ่งเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ปลัด อบต.โคกสะอาดเพียง 8 เดือน ขณะที่ผู้บริหารในช่วงปีที่ปล่อยเงินกู้หมดวาระแล้ว เพราะเรื่องผ่านมาหลายปี แต่เรื่องที่เกิดขึ้น ถือว่า อบต.โคกสะอาดและชาวบ้าน 14 คน เป็นผู้เสียหาย เฉลี่ยรายละ 2 หมื่นบาท ทั้งนี้ ทาง อบต.โคกสะอาด สมัยนายวิจิตร มูลเอก เป็นนายก อบต.สมัยที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้ว ชาวบ้านมาร้องเรียนและพบพิรุธ นายวิจิตรได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีมูล มีการปลอมแปลงลายมือชาวบ้านจริง เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 อบต.โคกสะอาด จึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ฆ้องชัย และจากการติดตามเรื่องทราบว่า สภ.ฆ้องชัย ได้ส่งเรื่องไปที่ ป.ป.ช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ โดยล่าสุดจากการติดตามความคืบหน้า ทราบว่าอยู่ในขั้นการตรวจสอบข้อเท็จจริงและการไต่สวนของ ป.ป.ช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์