ชาวบ้านในอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ปักหลักชูป้ายขับไล่ไม่ต้อนรับเลขาฯ และพระเล็ก เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์รูปใหม่ ชี้มารับตำแหน่งไม่สง่างาม ยืนยันเจอที่ไหนไล่ที่นั้น แนะลาออกยุติปัญหา
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสการต่อต้านไม่ต้อนรับพระเล็ก หรือ พระครูสุทธิญาณโสภณ (เล็ก สุทธิญาโณ) เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) รูปใหม่ของประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์คงมีขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบแทบรายวัน เนื่องจากประชาชนมองว่าการเข้ามารับตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดครั้งนี้ไม่มีความสง่างาม และผิดจารีตประเพณี จนทำให้พุทธศาสนิกชน และคณะสงฆ์ใน จ.กาฬสินธุ์ไม่เห็นด้วยกับมติของมหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ก่อนจะลงชื่อคัดค้านและถวายฎีกา กระทั่งบานปลายถึงขั้นพระสังฆาธิการหลายสิบรูปลาออกจากตำแหน่ง และชาวบ้านรวมตัวขับไล่พระเล็กทันทีที่ทราบข่าวความเคลื่อนไหวเข้ามาในพื้นที่
ล่าสุดที่บริเวณวัดป่าแพงศรีเมือง ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ยังคงมีชาวบ้านออกมารวมตัวกันขับไล่พระรุ่ง เลขาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เข้ามาอยู่ในสังกัดวัด และพระสุชล พระใน จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งรู้จักกับเจ้าอาวาส และชาวบ้านอ้างว่าเป็นพระที่พาพระรุ่งเข้ามาให้เจ้าอาวาสเซนรับรองเข้าวัด พร้อมกับนำป้ายมาขับไล่ประกาศเจตนารมณ์ไม่ต้อนรับพระเล็ก เจ้าคณะจังหวัดรูปใหม่ โดยชาวบ้านหลายคนยังหวั่นวิตกต่อเรื่องราวที่เจ้าอาวาสวัดป่าแพงศรีเมืองเซนรับพระรุ่ง เพื่อให้เป็นที่ตั้งสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ และเปิดทางให้กับพระเล็กเข้ามาบริหารการปกครองคณะสงฆ์ธรรมยุตกาฬสินธุ์ ทั้งจังหวัด โดยที่เจ้าอาวาสไม่รู้มาก่อนด้วย
โดยชาวบ้านได้หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันปักหลักเฝ้าหน้าประตูโขงทางเข้าวัดป่าแพงศรีเมือง และนำป้ายไปติดไว้ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อแสดงพลังต่อต้านเข้ามาอาศัยของพระรุ่ง เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่แต่งตั้งโดยพระเล็ก และไม่ต้อนรับพระเล็ก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียดมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลาไสยมาดูแลความสงบเรียบร้อย พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลเข้ามาสงเกตการณ์ด้วย
นางไสว ทองศิริ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 ม.2 ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ชาวบ้านไม่มีความพอใจที่พระสุชล ซึ่งเป็นพระใน จ.ร้อยเอ็ด พาพระรุ่ง เข้ามาพบกับเจ้าอาวาสจนนำไปสู่การเซ็นรับพระรุ่งเข้ามาสังกัดวัดป่าแพงศรีเมือง เพื่อกุยทางตั้งสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ทำให้ตนและชาวบ้านทุกข์ใจอย่างมาก ส่วนท่านเจ้าอาวาส คือหลวงปู่ทองอินทร์ ก็มีพรรษามากถึง 82 ปีแล้ว ท่านได้พัฒนาวัดขึ้นให้มีความเจริญมากกว่าแต่ก่อน ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอยู่แล้ว ชาวบ้านส่วนมากไม่อยากต้อนรับพระที่จะเข้ามาอยู่ใหม่ มีความต้องการอยากให้หลวงปู่ทองอินทร์ปกครองวัดเหมือนเดิม และไม่ต้อนรับพระเล็ก เพราะมาไม่สง่างาม และผิดธรรมเนียมจารีตประเพณี ขอให้ลาออก ซึ่งพระกาฬสินธุ์ และชาวกาฬสินธุ์ขออยู่อย่างสงบสุขเหมือนที่เคยเป็นมา
ด้านนางบุญหนา นาห้วยทอง อายุ 71 ปี อยู่เลขที่ 50 ม.2 ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องจากญาติธรรมก็เลยมารวมตัวกัน เพื่อต่อต้านไม่ต้อนรับเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ รวมทั้งพระเล็ก เจ้าคณะจังหวัด ซึ่งทำอย่างไรก็ไม่สามารถทำใจได้ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น รู้สึกมีความทุกข์เดือดเนื้อร้อนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองของตน ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น มีความวิตกกังวลกับหลวงปู่เจ้าอาวาส จะให้ท่านอยู่อย่างไร จะมีการปลดจากตำแหน่งเจ้าอาวาสที่ท่านเป็นมากว่า 50 ปีได้อย่างไร ถ้าพระที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์องค์ใหม่ หรือพระเล็ก ยังเข้ามายังวัดป่าแพงศรีเมืองแห่งนี้ ยืนยันว่าชาวบ้านจะออกมารวมตัวกันเพื่อต่อต้านขับไล่ทันที เพราะทำแบบนี้เหมือนข่มขื่นความรู้สึกทางจิตใจของชาวกมลาไสย ซึ่งหากพระเล็กยืนยันที่จะมาอาจทำให้เกิดวิกฤติศรัทธาต่อศาสนาขึ้นอย่างแน่นอน