เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 มีนาคม 2565 ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไทยพุทรา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวการจัดการแข่งขันฟุตบอลต้านยาเสพติด “จักรทิพย์ คัพ 2022” ชิงถ้วยและเงินรางวัล รวม 200,000 บาท โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 มี.ค. – 3 เม.ย.2565 นี้ โดยใช้สนามแข่งขัน 3 สนาม คือ สนามฟุตบอลโรงเรียนกีฬาจังหวัดขอนแก่น, สนามฟุตบอลโรงเรียนพระยืน อ.พระยืน จ.ขอนแก่น และ สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น โดยมีทีมฟุตบอลที่เข้าร่วมการแข่งขันจาก 26 อำเภอเข้าร่วม
พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การจัดการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนในจังหวัดขอนแก่น ได้ออกกำลังกาย และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์โดยการเล่นกีฬา และห่างไกลยาเสพติด รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์อันดี เชื่อมความสามัคคีระหว่างชุมชนต่าง ๆ ในจังหวัดขอนแก่นโดยนักกีฬาที่ร่วมการแข่งขันครั้งนี้ เป็นนักกีฬาในพื้นที่ซึ่งยังไม่เคยเป็นนักกีฬาระดับทีมชาติ เยาวชนทีมชาติ หรือไทยลีก 1-3 มาก่อน อายุตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป มีนักกีฬาจาก 26 อำเภอ ในจังหวัดขอนแก่น สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน อำเภอละ 1 ทีม และอำเภอเมืองขอนแก่น 2 ทีม รวม 27 ทีม มีนักกีฬาทั้งหมด 486 คน รูปแบบการแข่งขัน จัดการแข่งขันแบบน็อคเอาท์ โดยใช้กติกาการแข่งขันของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ซึ่งสมาคมฟุตบอล แห่งประเทศไทยประกาศใช้แล้ว โดยอยู่ภายใต้ระเบียบเงื่อนไขของตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และมาตรการการป้องกัน การแพร่ระบาด COVID-19 ของกระทรวงสาธารณสุข โดยรางวัลในการแข่งขัน มีจำนวน 6 รางวัล รวมเป็นเงิน 200,000 บาท แบ่งเป็น 1. รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 100,000 บาท 2. รางวัลรองชนะเลิศที่ 1 เงินรางวัล 40,000 บาท3. รางวัลรองชนะเลิศที่ 2 เงินรางวัล 30,000 บาท 4. รางวัลรองชนะเลิศที่ 3 เงินรางวัล 10,000 บาท 5. รางวัลดาวซัลโว เงินรางวัล 5,000 บาท และ 6. รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า เงินรางวัล 5,000 บาท
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า ในเกมการแข่งขันกีฬาฟุตบอลที่จัดขึ้นในครั้งนี้ นอกจากจะให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้ว ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ยังให้ความสำคัญกับการป้องกันการใช้ความรุนแรงของนักกีฬาในสนามแข่งขัน ซึ่งทุกคนจะต้องมีสปิริต รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย จะต้องไม่มีการเล่นนอกเกมเด็ดขาด แม้ในระหว่างการแข่งขันอาจจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่การใช้ความรุนแรงในลักษณะอื่นๆ เช่น การใช้ศอกหรืออวัยวะส่วนอื่นทำร้ายคู่แข่ง จะต้องไม่เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด