ข่าวอัพเดทรายวัน

โจรขโมยใบมีดเครื่องหั่นชำแหละหมูและเตาเนื้อย่างกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายไว้ได้

เจ้าของเขียงหมูตลาดแลง บ้านติ้ว ตำบลกุดป่อง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย โร่แจ้งความกับพนักงานสอบสวน หลังตรวจสอบ มีทรัพย์สินหายไปจำนวน 2 ราย ได้แก่ ใบมีดเครื่องหั่น จำนวน 1 ใบ ราคา 12,000 บาท และชุดเตาเนื้อย่าง ราคา 1,200 บาท โดยกล้องวงจรปิดภายในเขียงหมูสามารถจับภาพคนร้ายได้ขณะลงมือขโมยทรัพย์สินได้อย่างชัดเจน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 เมษายน 2565 ร.ต.ท.ธนพงษ์ ดวงมณี รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองเลย ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายบุกเข้าขโมยทรัพย์สินหายไปจำนวน 2 รายการ อยู่ที่เจ้เล็ก เขียงหมู ตลาดแลง บ้านติ้ว ตำบลกุดป่อง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย กล้องวงจรปิด สามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสายสืบ สภ.เมืองเลย พบกับเจ้าของเขียงหมู ทราบชื่อว่า นางวัชรา เทียนบาง อายุ 49 ปี จากการตรวจสอบพบว่ามีทรัพย์สินหายไปจำนวน 2 ราย ได้แก่ ใบมีดเครื่องหั่น จำนวน 1 ใบ ราคา 12,000 บาท และชุดเตาเนื้อย่าง ราคา 1,200 บาท โดยกล้องวงจรปิดภายในเขียงหมูสามารถจับภาพคนร้ายได้ขณะลงมือขโมยทรัพย์สินได้อย่างชัดเจน

จากการสอบสวนนางวัชรา เจ้าของเขียงหมูให้การกับตำรวจว่า ที่ผ่านมานับตั้งแต่เปิดเขียงหมูมาก็หลาย 10 ปี ไม่เคยมีโจรมาขโมยเอาทรัพย์สินแต่อย่างใด ที่เขียงหมูจะเปิดตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึงประมาณ 20.00 น. เป็นประจำทุกวัน หลังจากที่ปิดเขียงหมูแล้วไม่มีใครอยู่ ตนเองกับลูกน้องจะกลับไปนอนบ้านพัก และในวันนี้ก็ได้มาเปิดร้านตามปกติ เมื่อจะหาใบมีดเครื่องหั่นชำแหละหมู ซึ่งได้ทำการค้นหาอยู่นานนับ 30 นาที จะหลงที่เก็บก็ไม่น่าจะหาย จึงค้นหาในกล่องพลาสติกแต่ไม่พบ จึงทำการตรวจทรัพย์สินที่หายไป จึงพบว่าใบมีดเครื่องหั่นชำแหละหมู หายไป ที่มีราคาสูง 12,000 บาท และชุดเตาเนื้อย่างหายไป

หลังจากนั้นจึงได้ทำการเปิดกล้องวงจรปิด ที่เขียงหมูสามารถจับภาพได้อย่างชัดเจน เป็นชายไทย อายุประมาณ 30 ปี จำนวน 1 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดใกล้กับเขียงหมู และดูลาดเลาแล้วเขียงหมู ที่มีอยู่ 5 แห่ง ได้ปิดหมดแล้ว แต่เปิดไฟฟ้าแสงสว่างไว้ตลอดทั้งคืน คนร้ายมา 1 คน ได้อาศัยในช่วงกลางคืนเวลาประมาณ เที่ยงคืน 28 น.ที่ผ่านมา คนร้ายได้พยายามจะซ่อนตัว แต่กล้องวงจรปิดมีหลายตัว และสามารถภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเลย จะได้เร่งติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป