วันที่ 3 เมษายน 2565 พ.ต.ท.ยุทธศิลป์ นามแสง รอง ผกก.สส.สภ.เพ็ญ พ.ต.ต.ภัคพล พลภักดี สว.สส.ฯ นำกำลังตำรวจสืบสวนควบคุมตัว นายพานิจ ขุริดี หรือวึม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.9 บ.ดงมะไฟ ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ผู้ต้องสงสัยฆ่าพระสังวาลย์ จักสาน อายุ 60 ปี มรณภาพในท่านั่งพิงผนังห้องน้ำกุฏิ ภายในวัดแจ้งสว่างวนาราม หรือวัดบ้านดงมะไฟ หลังจากมาจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ได้ยังไม่ถึง 1 เดือน เพราะหลังเกิดเหตุ นายพานิจ ขุริดี ได้ย้อนมาถามหารองเท้าและโคมไฟฉายแบบสวมหัวของตนเองที่ ทำหล่นไว้ในที่เกิดเหตุ
ตำรวจจึงตามไปควบคุมตัวได้ที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้านดงมะไฟ ก่อนนำตัวไปตรวจยึดขวานเปื้อนเลือด ความยาว 30 เซนติเมตร ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ พิงอยู่กับขอนไม้บริเวณข้างบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันกับบ้านของนายพินิจฯ โดยตำรวจต้องใช้ยุทธวิธีเกลี่ยกล่อมอยู่นานนับชั่วโมง เนื่องจากนายพินิจฯ พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง ก่อนจะรับสารภาพเป็นคนฆ่าพระหลวงตาสังวาลย์ฯ จริง คาดว่ายังมีอาการเมายาบ้าอยู่
“ที่ทำไปเพราะว่าเห็นพระสังวาลฯเป็นผีปอบ จึงใช้ขวานที่พกมาไล่จามทุบทำร้าย และยังอ้างว่าตัวเองไล่ฆ่าผีปอบไม่ได้ฆ่าพระสังวาลฯ ในเบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาในชั้นจับกุมว่า “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” หลังจากตำรวจได้สอบปากคำพยานรวม 3 ปาก โดย นางรัตนวดี เมืองเลน แม่ชี อายุ 56 ปี ที่อยู่วัดเห็นเหตุการณ์ มีชายเข้ามาทำร้ายพระหลวงตา ซึ่งยืนยันกับตำรวจ เป็นนายพานิจฯ หลังจากดูภาพใบหน้า แล้วยังระบุว่าก่อหน้านี้ไม่กี่วันนายพานิจ ฯ เคยเข้ามาขอข้าว ที่วัด แม่ชีก็ให้ข้าวกิน แต่พูดจาวกวนไปไม่รู้เรื่อง ตำรวจก็ได้ควบคุมตัวนายพินิจฯ มาไว้ในห้องควบคุม สภ.เพ็ญ”
นางโสดาวรรณ์ ศรีบุญมี อายุ 41 ปี ส.อบต.นาพู่ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุแต่ก่อนเห็นปกติ พอหลังจากมีเกี่ยวข้องยาเสพติด มีนิสัยโลกส่วนตัวสูง เวลาเดินไปไหนมักจะพูดจาคนเดียว ไม่สุงสิงกับใคร คิดว่าอาจจะไปเสพยาเสพติดทำให้หลอนถึงไปก่อแหตุก็เป็นได้ ชาวบ้านพอทราบเรื่องว่าพระถูกฆ่าตาย รู้สึกเสียใจมากเพราะท่านเดินทางมาไกล เพื่อจะมาช่วยพัฒนาวัด และได้ทำบุญตักบาตรที่วัด ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โดยชาวบ้านบอกว่าผู้ก่อเหตุบอกว่า เห็นพระหลวงตาเป็นผีปอบ จึงพกขวานมาไล่ผีปอบ ตั้งแต่พระหลวงตามาจำพรรษาอยู่วัด ท่านพาชาวบ้านสวดมนต์ ออกบิณฑบาต และอัธยาศัยดีกับชาวบ้าน จนกระทั่งรู้ว่าผู้ก่อเหตุเข้าไปหาพระหลวงตา และทำร้ายจนมรณภาพ โดยมีแม่ชีเป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์
นายอุดม สุขวงศ์ อายุ60ปี มัคนายกวัดและพ่อจ้ำในหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ล่าสุดได้คุยกับหลวงตาเมื่อ 5 วันที่แล้ว โดยหลวงตาบอกว่าได้เดินทางจากภาคเหนือ จังหวัดพะเยา เห็นวัดนี้ไม่มีพระจำพรรษาสักรูป แต่ก่อนได้แต่นิมนต์พระมาจากวัดหมู่บ้านอื่น เพื่อมาประกอบพิธีทางศาสนา และทำบุญ ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าติดเสพยาเสพติด แล้วเกิดอาการหลอนมองเห็นรุ้งกินน้ำ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่บนฟ้า และไม่มีแล้ว เพราะเหล่าเทวดาลงมาข้างล่างกันหมดแล้ว เมื่อวานนี้ผู้ก่อเหตุนำดอกไม้ไปกราบแม่กับพ่อเลี้ยงของตนเอง เพราะเวลาไปไหนมาไหนจะมักเห็นผีปอบ และให้แม่ช่วยพาไปรดน้ำมนต์ แม่ของผู้ก่อเหตุก็เลยบอกว่า รอให้ผู้ก่อเหตุปกติหรือมีสติพูดจารู้เรื่องก่อน จึงจะพาไปรดน้ำมนต์ การคิดเช่นนั้นของผู้ก่อเหตุที่เห็นผีปอบ เกิดจากการเสพยาเสพติด (ยาบ้า) จนเกิดอาการหลอน ก่อนเกิดเหตุไม่กี่วัน มีชาวบ้านฝันเห็นคนในหมู่บ้านตาย และจะมีคนมารับเอาวิญญาณไป พอมีเหตุเกิดขึ้นมาอย่างนี้ ก็จะทำการปรึกษาผู้นำชุมชน ชวนชาวบ้านทำบุญใหญ่เพื่อแก้เคล็ดในหมู่บ้าน เพราะถือว่าเป็นเหตุการณ์ไม่ดีในหมู่บ้าน ถึงขั้นไล่ฆ่าพระสงฆ์ภายในวัด
โดยวันพรุ่งนี้ช่วงสาย (4 เม.ย. 65) พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี จะมาสอบสวนปากคำผู้ก่อเหตุด้วยตนเอง ก่อนควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ