เมื่อเวลา20.00น. วันที่ 7 เมษายน 2565 ร.ต.อ.สรวิศิษฎ์ มีเพียร รอง สารวัตร สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย ที่บ้านเลขที่ 98/1 หมู่ 2 บ้านดอนอีไข ต.นาดี จึงได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.สุรชิต ฤทธิ์ลี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอุดรธานี แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นไม้ครึ่งปูน บริเวณหลังบ้านเป็นโรงเก็บของสร้างเป็นเพิงมุงหลังคา ไม่มีฝากั้น พบศพนายมงคล มีศรี อายุ 72 ปี นอนตะแคงจมกองเลือดอยู่ที่พื้นข้างโอ่งมังกรสำหรับหมักหน่อไม้ดอง สภาพศพสวมกางเกงชาวเลสีฟ้า เสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้าขาว พบมีดทำครัวยาวประมาณ 1 ฟุต ด้ามหักตกอยู่ใต้ศพ และท่อนไม้หักติดคาบเลือดยาวประมาณ 50 ซม.จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการชันสูตร พบบริเวณลำคอถูกของมีคมปาดคอหวิดขาด บริเวณฝ่ามือ ข้อมือและท้องแขนมีบาดแผลถูกปาด คาดว่าจะต่อสู้แย่งมีด ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายอภิชาติ นรากรณ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/2 หมู่ 2 บ้านดอนอีไข ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นหลานชายผู้ตาย หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไป
จากการสอบสวนนางสมคิด นารากรณ์ อายุ 47 ปี ลูกสะใภ้ผู้ตายและแม่นายอภิชาติผู้ต้องหา เล่าว่า ผู้ตายเป็นพ่อของสามี ซึ่งสามีเสียชีวิตไปแล้ว ผู้ตายเคยบวชเป็นพระจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านหนองหูลิง ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ประมาณ 3 พรรษา พึ่งสึกออกมาเมื่อวันที่ 10 มีนาคม และกลับมาอยู่บ้าน และมักจะไปนอนเล่นที่โรงเก็บของประจำ ส่วนนายอภิชาติผู้ก่อเหตุ เป็นหลาน ไม่ทำงานชอบเสพยาบ้าจนมีอาการหลอน อาละวาดทะเลาะกับญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านประจำ และมีพฤติกรรมทำร้ายคนแก่และผู้สูงอายุ จนญาติพี่น้องกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ ตนนำตัวไปบำบัดรักษาอาการมา 1 ปี แต่ลูกก็กลับมาเสพยาบ้าเหมือนเดิมและกินยารักษาด้วย เมื่อมีอาการหลอนก็จะอาละวาด ซึ่งวันที่ 19 มีนาคม ได้ใช้จอบตีหัวยายได้รับบาดเจ็บ กระทั่งมาก่อเหตุฆ่าปู่ คาดว่าจะมีอาการหลอนยาบ้า “รู้สึกเสียใจที่ลูกฆ่าปู่ อยากให้ตำรวจจับไปดำเนินคดี เพราะทุกคนอยู่ยาก ”
นางพะยอม พาลีวงค์ อายุ 46 ปี หลานสะใภ้ผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายอาศัยอยู่กับตน ชอบมานอนเล่นอยู่ที่โรงเก็บของประจำ วันนี้ตนเห็นนายอภิชาตซึ่งเป็นหลานเดินมาบีบคอผู้ตายซึ่งเป็นปู่แท้ๆ ถึง 2 ครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุ คาดว่าจะเสพยาบ้าจนหลอน พวกตนได้ห้ามปรามและนายอภิชาติได้เดินออกไปแล้ว กระทั่งค่ำตนได้เรียกผู้ตายมากินข้าว เมื่อกินอิ่มผู้ตายก็ไปพักผ่อนอยู่ที่เดิม ต่อมาก็ได้ยินเสียงดังคล้ายคนทุบตีและต่อสู้กัน ตนกลัวจึงไม่กล้าออกไปดู ประมาณ 2 นาทีก็เงียบไป จึงโทรแจ้งตำรวจให้มาดู พบว่าปู่ถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตแล้ว ส่วนคนที่ฆ่าปู่คาดว่าจะเป็นนายอภิชาตได้หลบหนีไป “ตั้งแต่ปู่สึกจากพระมา นายอภิชาตก็เอาไม้มาแทงคอปู่บาดเจ็บ เสียใจที่ปู่ถูกฆ่า เพราะปู่ไม่ได้ทำความเดือดร้อนอะไรให้ใคร”
ต่อมาเวลา 21.00 น. พ.ต.อ.พันธุ์เพชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจติดตามจับกุมนายอภิชาตผู้ก่อเหตุได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่หน้าบ้านญาติ ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม.ซึ่งนายอภิชาติไม่มีต่อสู้ขัดขืน ยินยอมให้จับแต่โดยดี แต่ยังไม่ยอมพูดจาหรือให้การใดๆ ตำรวจจึงควบคุมตัวไปจุดเกิดเหตุ พร้อมกับแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี ตามกฎหมาย ต่อไป