เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 21 เม.ย.2565 น.ส.ยุวดี สิงห์เมืองพล หัวหน้าฝ่ายบริหารโครงการชลประทานจังหวัดขอนแก่น ชวนเพื่อนพนักงานใช้เวลาช่วงพักเที่ยงทำ “มะม่วงบ่ายโบก” เมนูอาหารอีสานที่สืบทอดกันมามารับประทานด้วยวัตถุดิบคือมะม่วงกะล่อน หรือบักม่วงน้อย ที่ปลูกตามท้องไร่ท้องนา แต่ละปีจะออกผลผลิตเฉพาะช่วงเดือน มี.ค.- พ.ค.เท่านั้น
น.ส.ยุวดี กล่าวว่า ในการทำมะม่วงบ่ายโบก จะเลือกเฉพาะมะม่วงผลสุกที่ร่วงลงมาจากต้นเท่านั้น โดย ไม่ควรนำผลดิบมาบ่มเพื่อทำให้สุก ซึ่งหากเป็นผลดิบรสชาติจะเปรี้ยวมาก ขณะมี่วิธีทำนั้นก็ไม่ยาก เพียงนำมะม่วงกะล่อนที่ตกลงมาจากต้นนำมาล้างทำความสะอาด จากนั้นใช้ฝ่ามือคลึงผลมะม่วงให้นิ่ม ใช้มีดตัดช่วงขั้วออก ให้มีความกว้างที่พอเหมาะจากนั้นก็บีบเมล็ดออกมา แล้วนำข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆ ใส่เข้าไปในมะม่วง แทนเมล็ด จากนั้นก็ขยำให้เข้ากัน หรือคนอีสานเรียกว่าเหนี่ยง หรือการใช้มือบีบขยำด้านนอกจนข้าวเหนียวมีสีเหลืองทั่ว ก็นำมาจัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟได้ทันที
” ในช่วงที่กระแสข้าวเหนียวมะม่วงกำลังเป็นที่นิยมจากที่น้อง “มิลลิ” ซึ่งนำข้าวเหนียวมะม่วงขึ้นไปรับประทานบนเวทีคอนเสิร์ตระดับโลก จนเป็นทำให้กระแสการรับประทานมะม่วงสุกและข้าวเหนียวมะม่วงของไทย เป็นที่นิยมไปทั่วโลก ในฐานะคนขอนแก่นและเป็นลูกหลานเกษตรกรในพื้นที่ ขอขอบคุณน้องมิลลิที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เป็นกอบเป็นกำ แต่โดยส่วนตัวอยากให้คนไทยและน้องมิลลิรู้จักมะม่วงบ่ายโบก หรือข้าวเหนียวมะม่วงของชาวอีสาน ซึ่ง มีรสชาติอร่อยไม่แพ้กัน และที่สำคัญขณะนี้เริ่มหารับประทานได้ยาก เพราะชาวไร่ ชาวสวนส่วนใหญ่จะโค่นต้นมะม่วงกะล่อน ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และตามท้องไร่ท้องนาทิ้งไปแล้วและหันไปปลูกมะม่วงชนิดอื่นที่ทำรายได้ได้มากกว่า “