ศรีสะเกษ อดีตนายก สชสท.ยันไม่หนักใจโดนแจ้งดำเนินคดี 20 ข้อหา พร้อมต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ขอโทษสมาชิกและเสียใจที่ไม่สามารถรักษาสิ่งดี ๆ ไว้ให้สมาชิกตลอดไปได้ จะไม่ขอกลับมายุ่งเกี่ยวกับสมาคมอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายวัฒนพล อนุพันธ์ นายก อบต.ตาเกษ ในฐานะนายทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ประจำท้องที่ อบต.ตาเกษ ได้ลงนามคำสั่ง อบต.ตาเกษ ที่ 79/2565 ลว. 18 เม.ย.2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทยชุดใหม่เป็นการชั่วคราว ซึ่งในคำสั่งระบุว่า ตามคำสั่ง อบต.ตาเกษ ที่ 78/2565 ลงวันที่ 18 เม.ย. 65 นายทะเบียนฌาปณกิจสงเคราะห์ประจำท้องที่ อบต.ตาเกษ มีคำสั่งให้คณะกรรมการ สชสท. พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.65 นั้น เพื่อให้สมาคมฯสามารถดำเนินการบริหารงานได้อย่างต่อเนื่อง ถูกต้องเป็นธรรม จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 45 แห่ง พ.ร.บ.การฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เป็นการชั่วคราวขึ้น โดยให้ ส.ต.ท.วรศักดิ์ พรมพิลา ปลัด อบต.แต้ ดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมฯ พร้อมคณะกรรมการ รวมทั้งสิ้น 17 คน เข้าปฏิบัติงานมีอำนาจหน้าที่และสิทธิ์เช่นเดียวกับคณะกรรมการและให้คณะกรรมการชั่วคราวจัดให้มีการประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการขึ้นใหม่ทั้งคณะให้เสร็จสิ้นภายใน 45 วัน และได้มอบหมายให้นิติกร ประจำ อบต.ตาเกษ นำเอาเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายสามัคคี เดชกล้า นายก สชสท.และคณะ เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้เกิดความเสียหาย รวมทั้งสิ้น 20 ประเด็นข้อกล่าวหา โดยส่วนมากแล้วจะเป็นความผิดเกี่ยวกับการกระทำข้อบังคับ กระทำผิดวัตถุประสงค์ของสมาคม เพื่อให้พนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ต.ตาเกษ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ คณะกรรมการสมาคมชุดใหม่ที่ได้รับแต่งตั้งได้พากันมาปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย โดยมีการตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับการเงิน การบัญชี และทรัพย์สินต่าง ๆ ของสมาคมอย่างละเอียดรอบคอบ ขณะที่สมาชิกจำนวนหนึ่งได้เข้ามาติดต่อกับสมาคม เพื่อขอทราบรายละเอียดต่าง ๆ คณะกรรมการชุดใหม่ได้อธิบายข้อเท็จจริงให้ทราบอย่างละเอียด เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ อปพร.มารักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่
ดร.สามัคคี เดชกล้า อดีตนายก สชสท.กล่าวว่า นายทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ประจำท้องที่ อบต.ตาเกษ ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 45 แห่ง พ.ร.บ.การฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เป็นการชั่วคราวขึ้นมา เข้าปฏิบัติงานมีอำนาจหน้าที่และสิทธิ์เช่นเดียวกับคณะกรรมการของสมาคมชุดเดิมนั้น เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย ซึ่งจากการที่ตนได้พูดคุยกับ ส.ต.ท.วรศักดิ์ พรมพิลา ปลัด อบต.แต้ ดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมฯ คนใหม่แล้ว แจ้งว่า เป็นคนกลางที่เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาให้สมาคมเดินต่อไปได้ จะดูว่าปัญหาอยู่ตรงไหนจะแก้อย่างไร ตอนนี้พอทราบแล้วว่า ปัญหามันอยู่ตรงไหน จะแก้อย่างไรถึงแม้จะมีเวลาจำกัดก็จะพยายามแก้จุดสำคัญก่อน ทำอย่างไรจะให้สมาชิกมาจ่ายเงินต่อเพื่อให้สมาชิกได้เงินที่จ่ายสูงเกินไป ทำยังไงจะแก้ระเบียบให้จ่ายแบบตามรายศพละกี่บาท หักค่าบริหารไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนดคือ 4 เปอร์เซ็นต์ มีสมาชิกเท่าใดก็จ่ายตามนั้น
ดร.สามัคคี เดชกล้า อดีตนายก สชสท.กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้าที่จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ตนได้เสนอเรื่องไปยัง นายก อบต.ตาเกษ ในฐานะนายทะเบียนประจำท้องที่ เรื่อง ขออุทธรณ์ให้คณะกรรมการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทยเข้าปฏิบัติหน้าที่
เนื่องจากการหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.2565 ถึงวันนี้ เป็นเวลาล่วงเลยมานานมากแล้ว ซึ่งสมาชิกที่เสียชีวิตในเดือน ก.ค.2564 ทายาทจะต้องได้รับเงินสงเคราะห์ครอบครัว ครั้งที่ 1 ในเดือน มกราคม 2565 และสมาชิกที่เสียชีวิตในเดือน สิงหาคม 2564 จะต้องได้รับเงินสงเคราะห์ครอบครัว ครั้งที่ 1 ในเดือน กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งบัดนี้ได้ล่วงเลยมาถึงเดือน เมษายน 2565 แล้ว ทำให้สมาชิกได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น ตนจึงได้ขอให้พิจารณาทุเลาคำสั่งให้คณะกรรมการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่จ่ายเงินสงเคราะห์ครอบครัวแก่ทายาทสมาชิก ที่เสียชีวิตในเดือน กรกฎาคม 2564 และเดือนสิงหาคม 2564 จำนวน 143 รายๆละไม่เกิน 100,000 บาท เป็นเงิน 11,4444347,800 ในวันที่ 21 เมษายน 2565 นี้ด้วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชกแต่ว่าเรื่องนี้ไม่ได้รับการอนุมัติแต่อย่างใด
ดร.สามัคคี เดชกล้า อดีตนายก สชสท.ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนการที่ทาง อบต.ตาเกษ ได้นำเอาเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย เพื่อให้ดำเนินคดีกับตนและคณะ เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้เกิดความเสียหาย รวมทั้งสิ้น 20 ประเด็นข้อกล่าวหา โดยส่วนมากแล้วจะเป็นความผิดเกี่ยวกับการกระทำข้อบังคับ กระทำผิดวัตถุประสงค์ของสมาคม เพื่อให้พนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปนั้น ตนไม่รู้สึกหนักใจแต่อย่างใด ตนขอยืนยันว่าได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกอย่าง ไม่มีการทุจริตและไม่ได้ทำให้สมาคมและสมาชิกเสียหายแต่อย่างใด ตนพร้อมที่จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุด ตนขอฝากไปถึงสมาชิกของสมาคมทุกท่านว่า ตนขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจมาตลอดระยะเวลากว่า 11 ปี ขอโทษและเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถจะรักษาสิ่งที่ดีๆไว้ให้แก่สมาชิกได้ตลอดไป ขอจงเชื่อมั่นและให้ความไว้วางใจกับคณะกรรมการชุดใหม่ต่อไป ซึ่งในการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ตนจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งแต่อย่างใด