กล้องวงจรปิดจับภาพโจรเสื้อลายพรางมือใหม่หัดขับแอบเข้ามาขโมยเก๋งของหญิงสาววัย 35 ปี ชาวตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ในช่วงเช้ามืด ก่อนที่เจ้าของบ้านตื่นขึ้นมาเห็น ขณะกำลังถอยหลังออกมาจากโรงรถลักษณะเหมือนขับเกียร์ออโต้ไม่เป็นหรืออาจเพิ่งหัดขับ พร้อมตะโกน“คุณเป็นใคร ลงมาจากรถเดี๋ยวนี้” ทำให้คนร้ายตกใจวิ่งปีนกำแพงหนี โดยหญิงสาวใจเด็ดเจ้าของบ้านวิ่งไล่ตามหลัง และใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานแจ้งตำรวจ ผ่านมา 1 เดือนยังลอยนวล และโพสต์เตือนภัยทางโซเชียล
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “น้ำดื่ม สุขใจ” ได้โพสต์ภาพที่เป็นคลิปวีดีโอกล้องวงจรปิดและภาพนิ่ง พร้อมข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค 65 เวลา ประมาณ 05:40น. ได้มีขโมยขึ้นบ้านน้องโบว์ (ตรงข้างโรงน้ำดื่มสุขใจ) ม.6 บ้านนาแก ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ มีชายอายุประมาณ 35-40 ปี สูงประมาณ160 ซม.รูปร่างผอมสวมแขนยาวเสื้อลายพราง สวมหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้า ได้ปีนกำแพงเข้ามาเพื่อพยายามเปิดห้องและหาของมีค่า โดยขึ้นบันไดบริเวณหลังบ้านและหน้าด้าน จากนั้นคนร้ายพยายามครู่หนึ่งไม่สำเร็จ จึงเปลี่ยนลงมาค้นรถยนต์ที่จอดหน้าบ้าน และได้พยายามขโมยรถยนต์เพื่อหลบหนี (น้องลืมกุญแจไว้ในรถ) แต่เจ้าของบ้านลงมาทันและเจอกันกับขโมยอย่างจัง! และพยายามบอกให้หยุดและออกมาจากรถ…คนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงทิ้งกุญแจไว้และออกมาจากรถยนต์แล้วรีบวิ่งหนีไปด้านหลังบ้าน ถนนลูกรังเส้นหลังคลองชลประทาน บ้านวังฝั่งแดง-บ้านเลิงทุ่ม หากท่านใดพบเห็นหรือมีเบาะแสโปรดแจ้ง สภ.นากุง
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Warinthon waranit ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของรถ โพสต์ว่า “เตือนภัยนะ โปรดอย่าทำเหมือนโบว์นะ เพราะอันตรายมาก#อย่าลืมกุญแจรถไว้รถนะ เมื่อโจรเข้าบ้านไม่ได้เขาจะหาทรัพย์สินอื่นทันที”
ทั้งนี้ หลังจากได้โพสต์ทั้งภาพที่เป็นคลิปและภาพนิ่งทางโซเชียลออกไปดังกล่าว มีคนเข้ามากดถูกใจและแสดงความคิดเห็น พร้อมแชร์ต่อๆกันไปอย่างแพร่หลาย โดยส่วนใหญ่เตือนให้ระมัดระวังภัยสังคมในยุคสถานการณ์โควิด-19 และยกนิ้วให้ในความใจเด็ดกล้าเผชิญหน้ากับคนร้าย ซึ่งเป็นผู้ชาย จนลืมระวังเรื่องความปลอดภัย ซึ่งคนร้ายอาจจะมีอาวุธ และอาจจะขับรถพุ่งชน บางคนคอมเมนท์อย่างขบขันในความใจเย็นของคนร้าย ซึ่งจากภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ มีลักษณะเป็นโจรย่องหนัก เปิดแผงเหล็กเสียงดัง ไม่มีอุปกรณ์งัดแงะ แถมไม่สวมหน้ากาก เปิดหน้าเปิดตา และใจเย็นมาก โดยมีการนั่งพักหลังงัดประตูหน้าต่างไม่สำเร็จอีกด้วย ทั้งนี้คลิปดังกล่าวมีความยาวถึง 17 นาที ขณะที่เจ้าของบ้านระบุทุกวันนี้ดำเนินชีวิตอย่างอย่างหวาดระแวง หวั่นมิจฉาชีพเข้าก่อเหตุซ้ำอีก เนื่องจากผ่านมากว่า 1 เดือน คนร้ายยังหลบหนีลอยนวล
โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง ที่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 6 บ้านนาแก ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านหลังเกิดเหตุ พบกับนางสาววันวิสาข์ พรหมอาจ อายุ 35 ปี เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Warinthon waranit ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของรถ ที่คนร้ายได้เข้ามาก่อเหตุ โดยนางสาววันวิสาข์ กล่าวว่า เหตุดังกล่าว เกิดในช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 05.42-05.54 น. ขณะที่ตน พร้อมด้วยแม่และลูก 2 คน หลานอีก 2 คน ที่ยังเล็กอยู่ยังไม่ตื่น ครั้งแรกตนได้ยินเสียงเปิดประตู ซึ่งเป็นแผงเหล็กกั้นราวบันไดหลังบ้าน ก็นึกว่าเป็นเสียงสุนัขที่เลี้ยงไว้เอาสีข้างมาถูไถเล่นกับแผงเหล็กดังกล่าว ไม่สงสัยว่าเป็นคนร้ายจริง สักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนคนพยายามจับขอบประตู หน้าต่าง และเขย่าเบาๆ แล้วก็เงียบหายไป ก่อนที่ต่อมาจะได้ยินเหมือนเสียงคนพยายามจะงัดประตูหน้าบ้านเบาๆ 2-3 ครั้ง และเงียบไปอีก ก็ยังไม่นึกว่าจะเป็นคนร้าย และเข้าใจว่าหูคงแว่วไปเอง ต่อมาจึงได้ยินเสียงสตาร์ทเครื่องรถเก๋ง ที่จอดอยู่โรงเก็บรถหน้าบ้าน จึงเข้าใจว่าน่าจะมีคนร้ายมาขึ้นบ้านและขโมยรถ
นางสาววันวิสาข์ กล่าวต่อว่า ด้วยความหวงแหนรถ จึงลืมที่จะห่วงความปลอดภัยตนเอง ทั้งที่อยู่ในชุดนอน จึงวิ่งลงไปเห็นรถเก๋งของตนกำลังถูกใครไม่รู้ขับถอยหลังออกมาจากโรงจอดช้าๆ โยกไปมา ลักษณะอาการเหมือนขับรถเกียร์ออโต้ไม่เป็น หรืออาจจะเพิ่งกำลังจะหัดขับ ด้วยความหวงแหนรถดังกล่าว ก็เดินไปเคาะประตูฝั่งตรงข้ามคนขับ เพื่อให้คนร้ายหยุดรถและออกมา แต่คนร้ายก็ยังนั่งนิ่งในรถ ตนจึงเดินอ้อมหน้ารถไปเปิดประตูให้ และร้องถามออกไปว่า “คุณเป็นใคร ลงมาจากรถเดี๋ยวนี้” เขาจึงยอมเปิดประตูออกมา จึงพบว่าเป็นชายรูปร่างเล็ก และทำท่ากำมือข้างขวาเหมือนจะชกต่อยตน ทั้งนี้ จากภาพที่บันทึกโดยกล้องวงจรปิด เหมือนเขาทำท่าจะล้วงวัตถุอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาข่มขู่ตน ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปปีนกำแพงหลังบ้านหนีออกไป ขณะที่ตนได้แต่วิ่งไล่ตาม พร้อมยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพคนร้ายไว้
นางสาววันวิสาข์ กล่าวอีกว่า หลังจากคนร้ายปีนกำแพงหลังบ้านออกไป ตนจึงวิ่งมาดักที่ประตูหน้าบ้าน เผื่อจะเห็นคนร้ายวิ่งออกมา แต่ผิดคาดเพราะคนร้ายคงหนีเข้าป่าละเมาะไปแล้ว จึงโทร.แจ้งตำรวจ สภ.นากุง อ.ยางตลาด มาตรวจที่เกิดเหตุ ปรากฏว่ากระเป๋าสตางค์และเงินหายไป 400 บาท ซึ่งพบแต่หน้ากากผ้าสีดำ ที่คนร้ายทำตกหล่นตรงจุดจอดรถ และรถจักรยานยนต์ดัดแปลง สีขาว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สันนิษฐานว่าเป็นของคนร้าย จอดอยู่กลางป่าละเมาะ อย่างไรก็ตามถึงขณะนี้เวลาผ่านมา 1 เดือนเศษ สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่พบตัวคนร้าย ทั้งนี้ ตนได้โพสต์ภาพ ข้อความทางโซเชียล เพื่อเตือนใจประชาชนทั่วไประมัดระวังโจรผู้ร้าย ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด แน่นหนา ปิดล็อครถไว้ และไม่วางกุญแจรถไว้ในรถ หากมีเหตุคนร้ายขึ้นบ้านควรมีสติ อย่าผลีผลามเชิญหน้าเหมือนตน เพราะคนร้ายอาจจะมีอาวุธ และอาจจะถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายได้
นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือโซเชียล ให้แจ้งเบาะแสคนร้ายด้วย เพราะทุกวันนี้ตนและทุกคนในครอบครัว ซึ่งเป็นผู้หญิงและอยู่กับเด็ก ดำเนินชีวิตด้วยความกลัว หวาดระแวงมิจฉาชีพ เพราะอาจจะมาก่อเหตุซ้ำอีก จึงอยากเรียกร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตามจับคนร้ายรายนี้ด้วย
ด้าน พ.ต.อ.แมน ศิริฉาย ผกก.สภ.นากุง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้ง ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับสอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมกับส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ และรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนพื้นที่ใกล้เคียง และขณะนี้พอที่จะทราบตัวแล้ว แต่จากการติดตาม เบื้องต้นอยู่ระหว่างการหลบหนีออกไปนอกพื้นที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเฝ้าติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป