สุรินทร์-คืบหน้า จัดเต็มบวชหมู่ ขนรถแห่ติดเครื่องเสียงเปิดเพลงลั่นสนั่นวัด โคโยตี้สั้นเสมอหู ขณะที่อำเภอชุมพลบุรี แจงไม่ได้มาขอใช้เสียงดูคลิปแล้วผิด พรบ.สาธารณสุขพร้อมกับโคโยตี้เข้าข่ายอนาจาร
กรณีที่มีผู้โพสต์เฟสบุ๊ก ใช้ชื่อว่า”นันทวัน ภาพยนตร์” ได้โพสต์ว่าเก็บภาพบรรยากาศมาฝากงานยิ่งใหญ่กับหนังใหญ่ๆ บรรยากาศตอนกลางวัน นันทวันภาพยนตร์ D.559 ปะทะ มหกรรมรถแห่ ในงานอุปสมบทหมู่ ณ วัดทุ่งสว่างหนองเรือ ต.หนองเรือ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ งานงานอุปสมบทหมู่ ณ วัดทุ่งสว่างหนองเรือ ต.หนองเรือ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์
โดยมีเสียงดนตรีดังกระหึ่ม โคโยตี้แดนซ์กระจาย ทำเอาวัดทุ่งสว่างหนองเรือ ต.หนองเรือ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ แทบแตก นาคที่บวชหมู่เข้าพิธีอุปสมบทในวัดดังกล่าว และก็ได้สร้างความฮือฮาอย่างมาก เพราะภายในวัดมีการนำรถแห่กว่า 9 คัน ติดเครื่องเสียงมาเปิดเพลงกระหึ่มระหว่างการแห่นาค โดยมีสาว ๆ โคโยตี้นุ่งสั่นเสมอหูมาร่วมโชว์ลีลาเต้นบนรถเป็นที่ครึกครื้นด้วย ซึ่งก็ได้มีนันทวัน ภาพยนตร์ผู้ถ่ายคลิปนำมาลงไว้ในไลฟ์เฟสบุ๊ซและเว็บไซต์ยูทูบ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2565ที่ผ่านมา แต่ก็นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยเช่นกัน ว่า การแห่นาคเช่นนี้เป็นเรื่องเหมาะสมหรือไม่
บรรยากาศตามคลิปนั้นสังเกตได้ว่าบางคนไม่สวมแมสบางคนสวมแมส พร้อมกับยังมีการดื่มแอลกอฮอร์(ของมึนเมา) และยังมีการเต้นยั่วยวน พร้อมกันนี้ยังมีโคโยตี้สวมชุดที่ไม่สุภาพเต้นยั่วยวนอีกด้วย ทำเอาชาวเน็ตเสียงแตก บางว่าไม่เหมาะสมเพราะอยู่ในเขตวัด เป็นการรบกวนพระสงฆ์และสร้างความเสื่อมให้กับวัด และตั้งคำถามว่างานแบบนี้จัดขึ้นมาได้อย่างไร ใครเป็นผู้อนุญาตจัดขึ้นได้หรือในช่วงยุคโควิดที่มีมาตราการเข้มงวด บางก็ว่าได้ผ่อนคลายได้สนุกเต้นกันไปในยุคโควิด
ล่าสุด วันนี้ 28 เม.ย.65 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง อำเภอชุมพลบุรีจังหวัดสุรินทร์เพื่อเข้าพบและสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นายวัชรพงศ์ ดีเสมอ ปลัดอำเภอชุมพลบุรี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในการจัดงานบวชหมู่ในครั้งนี้ ไม่มีการขออนุญาตใช้เสียง และในเบื้องต้นในครั้งนี้ที่เห็นจากในคลิปไม่มีการสวมใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นการผิดคำสั่งของจังหวัดสุรินทร์ ที่ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย โดยทางจังหวัดสุรินทร์นั้นได้มีคำสั่งว่า ถ้ามีการรวมกลุ่มกันมากกว่า 1,000 คน ต้องมีการขออนุญาตมาที่อำเภอ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ทางผู้จัดงานนั้นจะมีการเข้ามาขออนุญาตทางอำเภอ แต่เคสนี้ในการจัดงานในครั้งนี้ไม่มีการขออนุญาตหรือทำหนังสือแจ้งมาทางอำเภอ และที่เห็นในตามคลิปนั้น จะเห็นได้ว่ามีความผิดในประเด็นแรก คือการดื่มสุราในพื้นที่วัด ซึ่งผิดตาม พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
และฝ่าฝืนคำสั่ง ของทางจังหวัดสุรินทร์ในการไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย แล้วอีกอย่างหนึ่งคือ มีโคโยตี้มาเต้นสวมใส่ชุดไม่เหมาะสม อันนี้จะเข้าข่ายอนาจาร ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ เบื้องต้นเพื่อให้เกิดความชัดเจน ทางอำเภอจะทำหนังสือแจ้งไปยังกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริง แล้วทางอำเภอจะรวบรวมข้อมูลต่างๆและถ้าเห็นว่ามีความผิดจริงก็จะดำเนินคดีว่ามีข้อหาอะไรบ้าง และส่งเรื่องไปยังสถานีตำรวจเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนิการต่อไปต่อไป
ด้าน พ.ต.อ. พงศ์พันษ์ พลวงษ์ศรี ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรชุมพลบุรี จ. สุรินทร์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่ได้รับการประสาน ให้เข้ามาควบคุมและดูแลการจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองก็พึ่งทราบข่าววันนี้ว่ามีการจัดงานดังกล่าวทางสื่อทีวี ส่วนเรื่องการขออนุญาตใช้เสียงนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของทางอำเภอชุมพลบุรีเป็นผู้อนุญาตหรือไม่นั้นขึ้นอยู่ดุลพินิจของทางอำเภอ แต่ถ้าพบว่ามีความผิดในด้านกฏหมายข้อใดข้อหนึ่งนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการตามกฏหมายให้ถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนอยู่ร่วมกันได้ในสังคมต่อไป
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดทุ่งสว่างหนองเรือ ต.หนองเรือ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เพื่อจะขอเข้าพบกับเจ้าอาวาสวัดทุ่งสว่างหนองเรือ เพื่อถามสอบถึงกรณีดังกล่าว แต่ไม่พบพระเจ้าอาวาสอยู่ สอบถามจากพระลูกวัดได้ทราบว่า เจ้าอาวาสไม่อยู่ติดกิจนิมนต์ไปนอกพื้นที่ ผู้สื่อข่าวจึงเดินเก็บภาพบรรยากาศรอบๆวัด พบว่าบรรยากาศภายในวัด เงียบเหงาภายในวัดพบเพียงลูกศิษย์วัด อยู่เพียงรูปเดียว ผู้สื่อข่าวจึงเดินเก็บภาพบรรยากาศรอบๆวัด ภายในวัดมีป้ายติดเตือนไว้ว่าห้ามดื่มสุราภายในวัดพร้อมระบุอัตราค่าปรับไว้ติดที่บริเวณด้านหน้าวัดและในวัด หลังจากที่ สังเกตดูภายในวัด ผู้สื่อข่าวก็ได้พบกล่องเหล้าและขวดเหล้าอยู่เกลื่อนบริเวณโบสถ์ภายในวัด ซึ่งคาดว่าคงเป็นขวดเหล้าจากงาน บวชอุปสมบทหมู่ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบเจ้าคณะอำเภอชุมพลบุรี ซึ่งทางเจ้าคณะอำเภอติดภาระกิจปฏิบัติธรรมอยู่ที่ อ.สังขะ จ. สุรินทร์ จึงได้โทรศัพท์ให้ข้อมูลมาว่า ทางเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวอาจจะไม่ทราบว่าจะมีการนำรถแห่จำนวนหลายคันมายังวัดและมีโคโยตี้มาเต้นภายในวัดด้วย เพราะท่าทางเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวรู้ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น คงไม่อนุญาตให้นำโคโยตี้หรือรถแห่และสุราเข้ามาในพื้นที่ ส่วนเรื่องดังกล่าวนั้น ทางเจ้าคณะอำเภอจะทำการสอบสวนหาข้อมูลเพื่อ หาเท็จจริงต่อไป
ขอบคุณคลิป/ภาพ เฟซบุ๊ค นันทวัน ภาพยนตร์