จากกรณีเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2565 เมื่อเวลา 09.30 น. ศูนย์วิทยุกู้ภัยสุรินทร์ได้รับแจ้งจากพลดีว่ามีรถยนต์กระบะชนรถจักรยานยนต์ 2 คันมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้อเท้าขาด มือฉีกเป็นแผลฉกรรจ์ที่บริเวณถนนข้างค่ายวีรวัฒน์โยธิน เส้นทางมุ่งหน้าไปทางเรือนจำสุรินทร์ จึงได้ประสานไปยัง ร.ต.อ.จตุรงค์ ล้อมนาค รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบว่าการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองสุรินทร์ เร่งดำเนินการระบายรถ พร้อมกันนี้อาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์รีบช่วยเหลือนำร่างได้รับบาดเจ็บนอนอยู่ข้างทางทราบชื่อต่อมาชื่อ น.ส.กนกวรรณ ผลโคกสูง อายุ 33ปี บ้านพักเลขที่ 192 ม. 1 ต.นาดี อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นพนักงานของโกบอลเฮาว์ แผนกเซราบิค มีอาการซึมไม่ค่อยมีสติ ร่างกายมีสภาพแผลถลอกตามร่างกาย มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ข้อเท้าขวามีลักษณะข้อเท้าขาดกระดูกหักเนื้อขาดเกือบหลุดห้อยอยู่ทึ่ข้อเท้า และมือขวานิ้วฉีกขาดลงมาเกือบถึงข้อมือมีกระดูกโผล่ออกมาจนเห็นได้ชัด และในบริเวณที่เกิดเหตุพบชิ้นของกระดูกข้อเท้าหักและมีเศษเนื้อกระจายติดตามรถมอเตอร์ไซค์และถนน ใกล้กันพบรถจักยานยนต์ยี่ห้อ Honda Wave 125 i สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 1 กว-2736 สุรินทร์ หน้าตัวรถจักรยนต์พังยุบเข้ามานอนตะแคงอยู่ ซึ่ง น.ส.กนกวรรณ ผลโคกสูง เป็นเจ้าของรถจักรยนต์คันดังกล่าว ห่างกันประมาณ 50 เมตร พบรถจักรยานยนต์ Honda Wave 125 i สีดำ หมายเลขทะเบียน ขทว-176 สุรินทร์ ทราบชื่อผู้ขับขี่ชื่อนายวัชรพล วตะกร อายุ 49 ปี มีบาดแผลถลอกที่มือทั้งสองข้างและปวดหลังมาก อาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ทำการรักษาในเบื้องต้นพร้อมกับนำตัวส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ จากนั้นห่างกันประมาณ 50 เมตรพบรถยนต์กระบะยี่ห้อ ToyoTa Hilux Revo สี บรอม์เทา ทะเบียน กต 1493 สุรินทร์ สภาพด้านหน้ารถยนต์ด้านขวาฉีกขาดยุบเข้ามายังห้องเครื่อง แม็คล้อหน้าขวาแตกและยางแตก ทราบชื่อคนขับต่อมาชื่อ ร.ต.อ.บรรยาย แก่นจันทร์ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่ที่ สภ.จอมพระ จ.สุรินทร์ นั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่เกิดเหตุ ร.ต.อ.บรรยาย แก่นจันทร์
ชื่อ ร.ต.อ.บรรยาย แก่นจันทร์ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่ที่ สภ.จอมพระ จ.สุรินทร์ คนขับรถยนต์กระบะ กล่าวว่า ตนนั้นได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าววิ่งมาจาก สภ.จอมพระ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ เพื่อที่จะมารับตัวผู้ต้องหาที่เรือนจำสุรินทร์ในเวลา 09.00 น. พอขับมาถึงที่เกิดเหตุตนได้ขับรถขึ้นแซงมองไม่เห็นว่ามีรถจักรยานยนต์วิ่งสวนมา จึงทำให้รถยนต์ของตนได้พุ่งชนเข้ากับรถของ น.ส.กนกวรรณ ผลโคกสูง อย่างจังพร้อมกับกระเด็นไปกระแทกรถจักยานยนต์ของนายวัชรพล วตะกร อีกคันบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งหลังจากนี้ตนจะรีบไปดูน้องคนเจ็บที่โรงพยาบาลสุรินทร์ต่อไป นายวัชรพล วตะกร ผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ตนนั้นขับรถจักรยานยนต์กำลังจะไปทำงานพอมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นรถยนต์คันดังกล่าวได้ขับแซงตนไปและได้ยินเสียงดังโครมพร้อมกับรถจักรยานยนต์ของตนนั้นล้มลงแต่โชดดีที่ตนไม่เป็นอะไรมากเพียงแต่ถลอกตามมือทั้งสองข้างและปวดหลังมากเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจถ่ายภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับได้เชิญ ร.ต.อ.บรรยาย แก่นจันทร์ คนขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว มาที่ สภ.เมืองสุรินทร์ เบื้องต้นตั้งข้อหาขับรถโดยประมาท
ล่าสุดวันที่ 1 พ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับร้อยเวรผู้รับเรื่องเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นในเขตของพื้นที่ สภ.เมืองสุรินทร์รับผิดชอบ ร.ต.อ.จตุรงค์ ล้อมนาค (ร้อยเวรผู้รับผิดชอบคดี) เล่าว่า เบื้องต้นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวขับรถเขเาตัวเมืองสุรินทร์มุ่งหน้าไปเรือนจำสุรินทร์เพื่อไปรับผู้ต้องหา โดยตอนเกิดเหตุผู้ขับขี่รถยนต์กระบะได้แซงรถจักรยานยนต์ในช่องทางเดินรถ และได้มีรถขับสวนมา (รถผู้บาดเจ็บ) จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น โดยทาง สภ.เมืองสุรินทร์ได้นำตัวผู้ขับไปตรวจวัดแอลกอฮอล์และผลที่ได้เป็น 0 มิลลิกรัม (ไม่พบแอลกอฮอล์ในเลือด) อย่างไรก็ตามต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเก็บพิสูจน์หลักฐานหาความจริงต่อไป
นางเทวี สมเจริญ อายุ 52 ปี เป็นญาติของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า วันนี้หลังจากที่ตนและญาติๆได้ทราบเรื่องของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ถึงกับช็อคไปตามๆกัน เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็วมาก คุณหมอบอกว่าต้องเร่งตัดขาผู้บาดเจ็บเกรงว่าจะติดเชื้อ และมีอาการเลือดออกในกระเพาะปัสสาวะ ตนจึงอยากให้ผู้ที่ขับขี่มารับผิดชอบให้ถึงที่สุด แต่ที่น่ากลัวมากไปกว่านั้นคือตนกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะว่าคนที่ชนนั้นเป็นตำรวจ
นางกัญญารัตน์ รักษาวงษ์ (เพื่อนร่วมงาน) เล่าว่าหลังจากที่ทราบเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เพื่อนร่วมงานถึงกับช็อค เพราะว่าเห็นหน้าพูดคุยกันทุกวัน ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเกิดเร็วขึ้นขนาดนี้ ตนกับผู้บาดเจ็บได้ทำงานที่บริษัทขายวัสดุตกแต่งบ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ และทางบริษัทได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว ที่ทำงานมีประกันให้พนักงานทุกคน และอาจจะนำมาเป็นเงินเยียวยาภายในวันข้างหน้าต่อได้ อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงหน่วยงานให้มาติดตามคดีให้ถึงที่สุดเพราะตามที่คุยกันกับคู่กรณีบอกว่าจะเข้ามาเยี่ยม จนมาถึงในขณะนี้ก็ยังเงียบหาย