สาธารณสุข จ.ศรีสะเกษ คุมเข้มบุญบั้งไฟป้องการแพร่ระบาดโรคโควิด – 19 หมู่บ้านที่จะจัดประเพณีบุญบั้งไฟต้องฉีดวัคซีนเข็ม 3 เกิน 30 % ขึ้นไป และผู้ที่เข้าไปร่วมงานจะต้องมีผลตรวจเอทีเคเป็นลบ
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่ขณะนี้ในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ กำลังมีการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ในเขตหลายอำเภอ ซึ่งเมื่อวันก่อนได้ประชุมกันเกี่ยวกับเรื่องการขออนุญาตจัดงานประเพณีบุญบ้างไฟซึ่งทาง จ.ศรีสะเกษ ได้มีการออกมาตรการเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ในการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ซึ่งทาง จ.ศรีสะเกษได้ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ศรีสะเกษได้ออกมาตรการออกมา เช่น มีมาตรการเกี่ยวกับเรื่องการจำกัดจำนวนคน การห้ามเล่นการพนันและการกำหนดเรื่องขนาดของบั้งไฟไม่ให้เกิน 3 นิ้ว ในส่วนของการควบคุมป้องกันโรคจะมุ่งเน้นเกี่ยวกับการห้ามดื่ม ห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ในการจัดงาน และไม่ให้โยนคนลงไปในดินโคลน ส่วนเรื่องอื่นเป็นมาตรการทั่วไป โดยหมู่บ้านที่จะจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟต้องฉีดวัคซีนเข็ม 3 เกิน 30 % ขึ้นไป ผู้ที่เข้าไปจัดงานร่วมงานจะต้องมีผลตรวจเอทีเคเป็นลบ โดยก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณงานจะต้องเอาเอกสารหลักฐานว่า มีการตรวจเอทีเค หรือว่ามีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 แล้วจึงจะให้เข้าไปในงานประเพณีบุญบั้งไฟได้ โดยทาง จ.ศรีสะเกษจะเข้าไปคุมเข้มตรวจเรื่องนี้โดยตรง โดยมี รองผู้บังคับการตำรวจศรีสะเกษและทางฝ่ายทหาร จะเข้าไปคุมเข้มเรื่องนี้ เนื่องจากว่าการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟเป็นอำนาจการอนุญาตของนายอำเภอ ดังนั้น ทางจังหวัดจึงจะต้องส่งคณะทำงานลงไปตรวจสอบแต่ละหมู่บ้าน จะจัดงานบุญบั้งไฟได้ หมู่บ้านละ 1 วันเท่านั้น
นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) สำหรับการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ จ.ศรีสะเกษ มีมาตรการดังนี้คือ ให้ผู้จัดงาน เจ้าของสถานที่ ผู้ประกอบการ ผู้เข้าร่วมงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามมาตรการเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ในงานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2565 ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษอย่างเคร่งครัด โดยให้งดการจำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ภายในบริเวณสถานที่จัดกิจกรรมงดกิจกรรมโยนโคลนหรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่อาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โควิด – 19 โดยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อโควิด – 19 รวมทั้งให้ผู้ประกอบการหรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบขององค์กรหรือหน่วยงานตรวจสอบและกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตาม”มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร” (Covid Free Setting) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยเคร่งครัด
นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ยังกล่าวด้วยว่า ตนขอฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษว่า ขณะนี้สถานการณ์การการติดเชื้อ โควิด-19 ของ จ.ศรีสะเกษมีแนวโน้มลดลง สถิติการติดเชื้ออยู่มีประมาณ 200 คนเศษต่อวันซึ่งประมาณเดือนกรกฎาคม 2565 นี้ ทางส่วนกลางจะให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นแล้ว ตนขอฝากเน้นย้ำเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 จะต้องมีจำนวนให้มากที่สุด จึงขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนชาว จ.ศรีสะเกษไปฉีดวัคซีนเข็ม 3 เข็มกระตุ้น ใครที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ก็ขอให้ไปฉีดเหมือน เดิมใครยังไม่ฉีดเข็ม 1 ก็ให้ไปฉีด เข็ม 2 ก็ให้ไปฉีดเข็ม 2 และให้ไปฉีดเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 ถือว่าเป็นเข็มบูสเตอร์ซึ่งเข็ม 3 นี้เป้าหมายต้องการให้เกิน 30 % ของประชากรโดยขณะนี้ค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศอยู่ที่ประมาณ 37 % แต่ในส่วนของ จ.ศรีสะเกษ มีเพียงแค่ 29 % เท่านั้น ตรงนี้จะต้องให้เกิน 30% ขึ้นไป จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวศรีสะเกษทุกคน ไปฉีดวัคซีนให้ครบทุกคนด้วย